Page 145 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 145

พระพุทธเจ้าได้  ถ้าหากว่าเขาบำเพ็ญบารมีไม่ถึงก็เป็นไปไม่ได้  พระพุทธองค์ได้บำเพ็ญบารมีสร้าง

               มาหลายภพหลายชาติ  สร้างแล้วสร้างอีก  ทำแล้วทำอีก  บางครั้งก็พลาดพลั้งไป  บางครั้งก็สำเร็จ

               บางครั้งก็ไม่สำเร็จ  ทำให้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารนี้  เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานบ้าง  เป็นเปรต

               อสุรกายบ้าง เป็นสัตว์นรกบ้าง เกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นเทวดาบ้าง ก็หมุนเวียนกันอย่างนี้ เรียกว่า

               “วัฏวน” คือ เวียนเกิดเวียนตายอย่างนี้

                     ทีนี้เมื่อเรารู้ชัดเจนแล้วว่า  การเวียนเกิดเวียนตายนี้หาความแน่นอนไม่ได้  บางครั้งเราก็คิด

               เบื่อหน่ายไม่อยากจะเกิด อันนี้เราก็ต้องสร้างบุญกุศลเอาเอง พระพุทธเจ้าก็ตรัสทางแล้วว่า “ทาน

               มัย ศีลมัย ภาวนามัย” ทานคือการเสียสละแบ่งความสุขของตนให้แก่คนอื่น ให้อภัยทานก็เป็นบุญ

               ให้วัตถุสิ่งของก็เป็นบุญ  ให้คำแนะนำพร่ำสอนแต่ละคำที่ดี  ๆ  ให้แก่กันและกันก็เป็นบุญ  ให้วัตถุ

               สิ่งของก็เป็นบุญ  เพราะว่าให้คนอื่นนั้นเบิกบานใจและใจของเราก็พร้อมที่จะสละด้วย  เมื่อใจของ

               เราสละออกไป เราให้คนอื่นมีความสุข เขาได้รับแล้วก็ปลื้มใจ ดีใจ มีความสุขใจไปด้วย อันนี้คือการ

                                                                                                ่
               สละ สละทั้งสติปัญญา สละทั้งคำพูดคำจาของเรา เวลาเราทำผิดเวลาเราทำถูก เราก็รู้วาเราทำถูก
                     ู้
               เราก็รว่าทำผิด เราก็ขอขมาโทษซึ่งกันและกัน มันก็เป็นบุญอีก เพราะว่าเราไม่โกรธกัน ใจมันไม่ขุ่น
               ใจมันเบิกบาน ใจมันไม่กังวลใด ๆ ทั้งสิ้นมันก็เป็นบุญ อย่างที่เคยพูดไว้เสมอว่า “จิตใสเป็นบุญ จิต

               ขุ่นเป็นบาป” ทีนี้ศีลมัย คือการรักษาศีล ศีลตั้งแต่ข้อที่ ๑ ถึงข้อที่ ๕ คือการรักษาชีวิตของตัวเองให้

               ปลอดภัย หรือว่าเส้นทางเดินของชีวิต พระพุทธเจ้าตรัสว่า ศีลนี้จะทำให้คนมีความสุข “สีเลนะ สุ

               คะติง ยันติ”  ศีลจะทำให้เกิดความสุขเพราะเราไม่เบียดเบียนใคร เราไม่โขมยของใคร เราไม่ทำให้

               คนอื่นเดือดร้อน ทั้งสามี ทั้งภรรยา เราไม่โกหก เราไม่หลอกหลวง เราไม่ดื่มสิ่งของที่ทำให้ตัวเอง

                                                ่
                                                               ้
               หลงลืมสติหรือว่าขาดสติไป  หรือวาเป็นคนที่เพ้อเจอไป  เราก็ดูแลรักษาร่างกายของเราดีมันก็เกิด
               “สีเลนะ สุคะติง ยันติ” มันก็ทำให้เกิดความสุข “สีเลนะโภคะสัมปะทา” ศีลทำให้สุขภาพร่างกาย

               ของเราดี เพราะอะไร เพราะเรารักษาสุขภาพของเราดี เนื่องจากว่าเรารู้ว่าการรับประทานอาหาร

               ประเภทใดมันเป็นโทษ การดื่มเครื่องดื่มประเภทใดมันเป็นโทษ เราก็งดเราก็เว้น มันก็ได้ประโยชน์

                           ่
                             ่
               เพราะเรารู้วารางกายของเราเป็นโทษ เราก็ไม่ดื่ม เราก็ไม่รับประทาน เมื่อเป็นเช่นนี้ร่างกายของเรา
               ก็ดี มันก็เป็นร่างกายที่ดี “โภคะ” คือร่างกายของเราก็ดี “สีเลนะ สุคะติง ยันติ” เมื่อร่างกายดี มี

               ความสุข  มันก็ดับความทุกข์ความกังวลไป  นี่คืออานิสงส์ของศีล  ภาวนามัย  บุญเกิดขึ้นเพราะการ

                                          ิ
               สวดมนต์ เพราะการนั่งสมาธ เพราะการเอาสิ่งดี ๆ เข้าสู่จิตทุกวัน ๆ เช่น เราทำวัตรสวดมนต์เย็น
                                                        ิ
               อย่างนี้หรือว่าสวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธ เรียกได้ว่าภาวนาเอาสิ่งที่ดี ๆ เข้าสู่จิต อย่างว่าพุทโธ
                                                                                                     ี
               พุทโธ สัมมาอะระหัง นะมะพะทะ ยุบหนอพองหนอ ว่าไป เราก็ระลึกถึงสิ่งที่ดี ๆ อยู่เรื่อย ๆ เรยกว่า


                                                          ๑๔๕
   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150