Page 150 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 150
สติปัญญาล้ำเลิศ จะมาเปรียบเทียบกับคนธรรมดาโดยทั่วไปมันเปรียบเทียบไม่ได้ เราอยากเป็นเลิศ
อย่างพระองค์ เราก็สามารถทำได้ พระพุทธเจ้าไม่ใช่มีพระพุทธเจ้าสมณโคดมพระองค์เดียว แต่มี
หลาย ๆ พระองค์ ถ้าเราอยากจะเป็นเลิศอย่างพระพุทธเจ้า เราก็สามารถทำได้ แต่ต้องสร้างบุญ
บารมีมาก ๆ เมื่อเราได้เดินทางมาถึงจุดนี้ หมายถึงการได้เกิดเป็นมนุษย์ท่านบอกว่าเป็นความโชคดี
ของเรา ถ้าเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็หมดโอกาสแล้ว มันพัฒนาไม่ได้ ทำยังไงก็พัฒนาไม่ได้ แม้แต่
ศาสดาเอกของโลกก็ไม่สามารถที่สอนให้สรรพสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์เดรัจฉานให้บรรลุธรรมได้ นี่คือ
เป็น “อภัพบุคคล” คือ บุคคลผู้เกิดมาอาภัพ แล้วก็มนุษย์ทุกคนก็ใช่ว่าจะประสบผลสำเร็จเป็นพระ
อรหันต์ได้ทุกคน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับบุญวาสนาบารมีของแต่ละท่านที่ได้สะสมไว้
เพราะฉะนั้น เชื้อที่เราสะสมไว้ทีละทีละน้อยนี้จะเป็นอุปนิสัย เป็นปัจจัย หรือว่าเป็นวาสนา
เป็นบารมีให้แก่เราข้ามภพข้ามชาติ เพราะฉะนั้น เรารู้อย่างนี้ละก็สะสมเอา หลวงพ่อ เจ้าประคุณ
สมเด็จพระญาณวชิโรดม ท่านพูดบ่อย ๆ ว่า บุญนี้แหละจะเป็นที่พึ่งของเรา ร่างกายนี้ตายแต่ใจไม่
ตายไปด้วย เมื่อใจไม่ตายก็ต้องเอาเสบียงบุญไปด้วย เสบียงบุญที่ว่าคือการสวดมนต์ การเดินจงกรม
การนั่งสมาธิ การฟังธรรมเทศนา การทำความดีทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นเสบียงบุญที่เราสะสมไว้ใน
ปัจจุบันชาตินี้ แล้วจะส่งผลให้ในอนาคตกาล
การจัดสมาธิออนไลน์ของวัดเทพเจติยาจารย์นี้ มีความปรารถนาดีอย่างยิ่ง ที่จะให้ทุกท่านได้
่
เข้ามารวม ในขณะที่เกิดวิกฤติโควิด หลายท่านออกไปจากบ้านไม่ได้ หลาย ๆ ท่านก็ยังทำงานที่
บ้านหรือ Work from Home ทางวัดเทพเจติยาจารย์ก็จัดให้มี Work from Temple เพราะฉะนั้น
การได้สวดมนต์ การได้เดินจงกรม การได้นั่งสมาธิ การได้ฟังธรรมะบรรยายทางออนไลน์จากวัด
เทพเจติยาจารย์ ก็ถือว่าเป็นสิ่งดี เมื่อท่านทั้งหลายเห็นด้วยก็เข้ามาร่วมกัน ท่านใดที่มีเพื่อน ๆ หรือ
คนรู้จักก็แนะนำได้ เพราะว่าวันนี้เราอยากจะให้ทุกท่านปฏิบัติบูชา บูชาใคร “ปูชา จะ ปูชะนียานัง
เอตัมฺมังฺคลมุตฺตมัง” การบูชาบุคคลผู้ควรบูชา เป็นอุดมมงคลสูงสุด หรือว่าเป็นความดีสูงสุด ความ
ดีก็คือว่า เราบูชาพระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาเอกของโลก พระองค์ประสูติขึ้นมานี่ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว
็
ว่า พระองค์เป็นผู้ยอดเยี่ยมที่สุด เป็นผู้เจริญที่สุด เปนผู้ประเสริฐที่สุด แล้วก็ตรัสอีกว่าชี้ดิน ชี้ขึ้นฟ้า
และก็ชี้ลงดิน “ชี้ลงดิน” หมายความว่า การเกิดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เราจะไม่เกิดอีก มีใครพูดได้
อย่างนี้บ้าง นี่แหละคือศาสดาเอกของโลก
การแสดงอภินิหารอย่างนี้ก็แสดงได้เป็นบางครั้งบางคราว เมื่อเกิดคราวที่พระทะเลาะกันอยู่
ื่
ที่กรุงโกสัมพี เรองพระธรรมกถึกกับพระวินัยธร พระพุทธเจ้าก็ยังไม่สามารถห้ามพระภิกษุเหล่านั้น
ให้สงบเงียบได้ พระองค์ก็เห็นว่า พระเหลานี้หัวดื้อ หัวรั้น ไม่ฟัง พระองค์ก็เสด็จไปที่ป่าเลไลยก์ ไป
่
๑๕๐