Page 42 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 42

่
               คริสตัลสวยงามเลย เขาก็เลยคิดว่าการสวดมนต์นั่นป็นสิ่งที่ดี เรามาพิจารณาดูว่าน้ำในรางกายของ
                               ่
               เรานี่ ๗๐% ในรางกายของเรา ถ้าเราสวดแน่นอนมันย่อมปรับโมเลกุลในตัวของเรา จะทำให้น้ำใน
               โมเลกุลในตัวของเราดีขึ้น  เมื่อน้ำในตัวของเราดีขึ้น  มันก็ทำให้เลือดลมของเราดีขึ้น  แต่ต้องสวด

               บ่อย  ๆ  เพราะว่าแต่ละวันเรามีเรื่องอะไรเยอะแยะ  มีเรื่องดีเรื่องไม่ดีมันก็สร้างโมเลกุลของน้ำใน

               ร่างกายของเราเสียบ้าง ดีบ้าง ทีนี้เรามาสวดมนต์มันก็แค่ ๑ ชั่วโมง มันก็จะทำให้น้ำในร่างกายของ

               เราดีในระดับหนึ่ง อยากจะให้ดีตลอดไป ต้องหมั่นสวดมนต์บ่อย ๆ

                     เพราะฉะนั้น       ในครั้งพุทธกาลจึงมีการทำน้ำพระพุทธมนต์และก็เอาไปประพรมเพื่อเป็น

               กำลังใจแก่สาธุชน การสวดมนต์จึงเป็นสิ่งที่ดีเรียกว่าเป็นสมาธิภาวนา ท่านทั้งหลายที่รับฟังอยู่ทาง

               ออนไลน์  ก็ขอให้ชวนกันมาสวดมนต์ร่วมกัน  ทางวัดเทพเจติยาจารย์ก็จัดให้สวดมนต์ทุกวันจนถึง

               วันที่ ๙ พฤษภาคม ศกนี้ อยากจะให้ทุกท่านได้เชิญเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ สามีภรรยา ญาติมิตรที่อยู่

               ในประเทศและต่างประเทศให้มาร่วมกันสวดมนต์กันเยอะ ๆ จะได้เป็นพลังบวก เมื่อพลังบวกก็จะ

               มีพลานุภาพมาก มันก็จะทำให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้น แต่ถ้าหากว่าเป็นพลังลบ มันก็จะทำให้เกิดความเศร้า

               ความเบื่อ ความเซ็ง ความเสียใจ ความท้อใจ ความหดหู่ใจเกิดขึ้น มันเป็นพลังแห่งความหดหู่หรือ

               ว่าเป็นพลังลบ เรามาสร้างพลังบวก พลังแห่งเมตตา การสวดมนต์นี้จึงเป็นสมาธิภาวนา เพราะทุก

               ครั้งที่เราสวด ใจเราก็จะต้องจดจ่อต่อบทสวด เมื่อใจเราจดจ่ออยู่ในบทสวด ก็เป็นสมาธิ

                     เจ้าประคุณ  สมเด็จพระญาณวชิโรดม หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธฺโร ท่านพูดว่า ถ้าใจของเราจด

               จ่อหรือตั้งมั่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั่นคือสมาธิ  โดยเฉพาะเราสวดมนต์  นี่แน่นอนเราจดจ่อและก็ตั้ง

               มั่นสวดไปทุกตัวอักษร  ตั้งแต่บรรทัดแรกจนถึงบรรทัดสุดท้าย  ใช้เวลา  ๑  ชั่วโมง  มันไม่ธรรมดา

               เพราะฉะนั้น ย่อมเกิดพลังจิตอย่างมาก เมื่อเราจดจ่อในการสวดมนต์ มันก็ย่อมเกิดพลังจิต เกิดพลัง

               จิตก็เกิดกระแสจิต  พอเกิดกระแสจิต  มันก็กระจายไปทั่วโลก  อันนี้มันเป็นสิ่งที่ดี  เหมือนกับ

               นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายเขาสร้างเครื่องยานอวกาศที่จะไปสู่อวกาศ มันก็ต้องสร้างเครื่องมือที่ดี คน

                                                         ื่
               ธรรมดาก็ใช่ว่าจะไปได้ ก็ต้องมีการฝึกฝน เครองสวมใส่ก็ไม่ใช่ธรรมดา เรียกว่านักบินอวกาศ ไม่ใช่
               คนธรรมดาที่ไม่ได้ฝึกฝน  ก็ต้องฝึกฝนแล้วฝึกฝนอีก  จนกว่าจะเป็นนักบินอวกาศจึงจะเข้าไปสู่ยาน

               อวกาศได้

                     การสวดมนต์ก็เหมือนกัน กระแสจิตที่เป็นกระแสจิตบวกนี่มันก็ต้องอาศัยความตั้งใจเป็นหลัก

               ถ้าหากว่าเราตั้งใจแล้วมันก็เกิดพลังจิต พลังจิตนี้เองก็จะแผ่กระจายไปได้ทั่วโลก หลวงปู่มั่นท่านพูด

               ว่า  การสวดมนต์นี่ถ้าสวดออกเสียงพอฟังได้แผ่อานุภาพไปได้แสนจักรวาล  ถ้าสวดมนต์เช้าเย็น

               ธรรมดามีอานุภาพแผ่ไปได้แสนโกฏิจักรวาล           ถ้าสวดเต็มเสียงมีอานุภาพแผ่ไปได้ตลอดอนันต



                                                           ๔๒
   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47