Page 43 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 43
จักรวาล แม้สัตว์ที่อยู่ใน ๓ ภพ และที่สุดอเวจีมหานรก ยังได้รับความสุขเมื่อแว่วเสียงสวดมนต์ผ่าน
ลงไปแม้ครู่หนึ่งหรือขณะหนึ่ง ก็ยังดีกว่าหาความสุขไม่ได้เลย นี่ท่านทั้งหลายลองคิดดูซิว่า การสวด
มนต์มีอานุภาพขนาดไหน แผ่ไปได้แสนจักรวาล ไม่ใช่เสียงสวดมนต์ที่เราว่า แต่เป็นกระแสจิต
จะต้องรวมตัวก็เยอะ ๆ เมื่อรวมกันเยอะ ๆ มันจึงมีพลานุภาพ
อย่างที่เมื่อวานฝนตก เรียกว่าตกอย่างหนักเลย เมื่อตกอย่างหนักมันก็ทำให้เน็ตมันก็ล้มบ้าง
มันก็เสียหายบ้าง ก็เลยติดขัด ต้องขออภัยที่ท่านทั้งหลายที่ได้ติดตามทางออนไลน์ อาจจะติดขัด
บ้าง วันนี้ก็ตั้งใจว่าจะสวดไม่เร็ว มีหลายท่านคอมเม้นต์มาว่าพระคุณเจ้าสวดเหมือนไปดาวอังคาร
อย่างนั้น เอาละไม่ไปดาวอังคารแล้วจะไปดาวพระจันทร์ วันนี้จะลดระดับลงมา ไม่สวดเร็วเหมือน
เมื่อก่อนแล้ว ท่านที่สวดใหม่ ๆ ก็แน่นอนสวดไม่ทัน ถ้าหากว่าสวดประจำอย่างนี้จิ๊บจ๊อย ๆ ที่วัดฉัน
สวดเร็วกว่านี้ว่าไปอีก เกทับไปอีก บางท่านเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้น เราก็จะพยายามสวดให้อยู่
ในระดับกลาง ๆ ไม่เร็วเกินไปและไม่ช้าเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องสวดบ่อย ๆ การสวดบ่อย ๆ ก็
่
จะทำให้อักขระหรือทำนองที่เราสวดเหมือนจะเข้าไปอยู่ในจิตของเรา อย่างเชนเราขึ้นบทพุทธคุณ
“อิติปิโส ภควา” ขึ้นปั๊ปเรารู้ทำนองเลยทันที เราก็สวดไปได้เรื่อย ๆ อันนี้มันอยู่ในจิตของเราแล้ว
สวดเมื่อไหร่ก็ได้
การสวดมนต์ก็ถือว่าเป็นการรักษาพระพุทธมนต์ของพระพุทธเจ้าเอาไว้ เมื่อรักษาไว้ก็ไม่ใช่
รักษาแต่อยู่ในตำรา รักษาอยู่ที่ใจของเราด้วยพุทธมนต์เข้าไปสู่ในใจของเรา เมื่อไหร่นั่นแหละก็จะ
ไปขัดใจของเรา เมื่อขัดใจของเราดีแล้ว ใจของเราก็จะใส เรียกว่าใจรู้ ใจตื่น ใจเบิกบาน แต่ถ้าใจไม่
ใส ใจไม่รู้ ใจไม่ตื่น มันก็เศร้า ที่นี้พอเศร้าแล้ว มันจะตื่นไม่ได้ มันจะเบิกบานไม่ได้ มันจะเหงา มัน
จะซึม มันจะหดหู่ มันจะท้อแท้ โอ้เบื่อเหลือเกิน คำนี้จะออกมาแล้ว นั่นหมายความว่าพลังจิตส่วน
้
ดำกำลังจะเข้าสู่จิตของเรา เพราะฉะนั้น เราต้องสรางพลังดำให้น้อย ๆ ต้องสร้างพลังใสหรือจิตใส
ให้มันมาก ๆ อย่างพระท่านบอกว่า “จิตใสมันเป็นบุญ จิตขุ่นมันเป็นบาป” เราต้องรวมกันสร้างพลัง
จิตดี ๆ หรือว่าพลังจิตบวกให้มาก ๆ ถ้าเราสร้างพลังจิตบวกมากเท่าไหร่ ความดีก็เกิดขึ้น
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ดร.มาซารุ อิโมโต้ เขาวิจัยเรื่องน้ำ ในที่สุดก็รู้ว่าการสวดมนต์นี่ทำให้
โมเลกุลของน้ำในร่างกายของเราเรียงตัวหนาแน่นและก็ออกมาสวยด้วย เขาพิสูจน์แล้วว่าการพูด
เพราะ ๆ โดยเฉพาะคำพูดของพระพุทธเจ้าหรือพระดำรัสของพระพุทธเจ้า ที่ออกจากพระโอษฐ์
่
ของพระองค์ เป็นพระโอษฐ์หรือวาพระทัยที่บริสุทธิ์ มีแต่ปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ล้วน ๆ ไม่มีอคติ
แม้แต่นิดเดียว ไม่ได้คิดที่จะทำร้ายใคร มีแต่ความปรารถนาดี อยากจะให้คนอื่น ๆ พ้นทุกข์
ี
เพราะฉะนั้น พระทัยของพระพุทธเจ้าจึงบริสุทธิ์ เรยกว่า “พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ”
๔๓