Page 72 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 72

๐๒๗                                              ธรรมะบรรยาย

                                                                   ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม

                 ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔



                     เจริญพรทุก ๆ ท่าน วันนี้เป็นวันที่ ๑๐ พฤษภาคมแล้ว ท่านทั้งหลายได้ถามมาว่าจะสวดต่อ

               ไหม แน่นอนอยู่แล้ว หลายท่านก็ต้องการอยากให้สวดต่อ เนื่องจากว่าสวดมนต์แล้วมันมีความรู้สึก

               ว่า มันโล่ง มันโปร่งมันสบาย เกิดความสุข เกิดความปีติ ว่าอย่างนั้น บางคนก็สวดเป็นกรุ๊ป ก็คือ

               รวมกันสวดในบ้าน  บางคนก็เปิดในจอทีวีหรือจอคอมพิวเตอร์ใหญ่  ๆ  เลยบางคนก็เปิดทางบลูทูธ

               เสียงดังชัดเจนมาก วันนี้ก็ได้รับโทรศัพท์จากอินโดนีเซียบอกว่าเขาจะขอร่วมเข้าสวดด้วย ชื่อ “กา

               ริน” แล้วก็ “โซฟี” เขาอยากจะร่วมสวดด้วย ขออนุโมทนา “ซาละมัด ดาตัง ซะละมัด ปากี” สวัสดี

               ตอนเย็น “ปากี” ตอนเช้า “มาลาม” ตอนเย็น “โสเหล่” ตอนกลางวัน ขออนุโมทนาสาธุกับชาว

               อินโดนีเซียด้วยแล้วก็ยังมีทางอเมริกา  คณะรุ่งอรุณคนไทยที่อยู่ทางอเมริกาก็เข้ามาร่วมสวดด้วย

               หลายท่านก็บอกว่าดี

                     การสวดรัตนปริตรนี่ก็ขอให้ท่านทั้งหลายได้คิดว่า เราสวดนี้เป็นการสวดเพื่อให้เกิดความสงบ

               สุขในโลก       เรามีความปรารถนาดีมีจิตบริสุทธิ์เหมือนกับพระพุทธเจ้าที่ทรงมีพระทัยอันบริสุทธิ์

               พระองค์ได้เสด็จไปเมืองเวสาลี       ก็เพื่อจะประกาศว่าพระพุทธเจ้าหรือพระพุทธรัตนะคือความ

               บริสุทธิ์ ธรรมะรัตนะ คือพระธรรมคำสั่งสอนอันบริสุทธิ์ สังฆะรัตนะก็คือหมู่พระสงฆ์ก็เป็นผู้บริสุทธิ์

               ล้วนแล้วแต่เป็นของดี  เมื่อของดีอย่างนี้แล้วก็ต้องบอกว่าเป็นคุณของพระรัตนตรัยอยากจะบอกให้

               สรรพสัตว์ทั้งหลายได้ทราบว่า  คุณของพระรัตนตรัยนี่เป็นที่พึ่งอันเกษม  อย่างอื่นเป็นที่พึ่งได้แต่ว่า

               คุณของพระรัตนตรัยนี่เป็นที่พึ่งอันเกษม  เป็นที่พึ่งอันประเสริฐ  ถ้าใครมารับพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

               แล้วก็จะทำให้บุคคลนั้นดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น คำว่า “พุทธรัตนะ” คือความ

               บริสุทธิ์ของจิตใจ  ก็ต้องทำด้วยสมาธิสมาธิก็คือการสวดมนต์นี้แหละหรือว่าการนั่งหลับตาพุทโธ

               ระหังสัมมนาหรือนะมะพะทะก็ว่าไป คือทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดสมาธิ

                     อย่างที่เราสวดมนต์นี้แน่นอนต้องเป็นจิตที่มุ่งมั่นแน่วแน่ในบทสวด  ถ้าหากว่าไม่มุ่งมั่น  ไม่

               แน่วแน่ก็สวดผิด นี่คือฝึกให้เกิดสมาธิ เกิดความตั้งมั่น เมื่อเกิดความตั้งมั่นหลายครั้ง หลายหน รวม

               เป็นกระแสเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้าน มันก็ต้องเกิดกระแสจิต เมื่อเกิดกระแสจิต

               ขึ้นมา มันก็ไม่มีอะไรทัดทานได้ สรรพสัตว์ทั้งหลายก็เหมือนฝนตกลงมาก็ชุ่มเย็น ชุ่มฉ่ำทั่วไปทุกหน



                                                           ๗๒
   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77