Page 75 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 75

ยังไงก็ไม่รู้ มีพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่รู้แล้วก็นายแพทย์ต่าง ๆ ที่มีกล้อง มีเครื่องมือ สามารถที่จะส่อง

               เห็นว่าไอ้ไวรัสโคโรน่า หน้าตามันเป็นอย่างนี้

                     มีครั้งหนึ่งมีพระภิกษุชื่อ  “ติสสะ”  ท่านก็ได้ผ้ามาก็มาตัดเย็บจีวรอย่างเรียบร้อย  พอตัดเย็บ

               เรียบร้อยแล้วก็นอน  พรุ่งนี้เช้าฉันจะเอาผ้าจีวรครองไปบิณฑบาตหรือใช้ไปบิณฑบาต  แต่ด้วยท่าน

                                       ่
               อ่อนเพลียหรือยังไง ท้องรวงหรือยังไรไม่รู้ ก็เลยตาย พอตายแล้วนี่ก็ทางอินเดียหรือสมัยก่อนเขาไม่
               เก็บศพไว้นาน ๑ วัน ๑ คืนเขาก็เอาไปเผาแล้ว ทีนี้เมื่อพระทั้งหลายมาเห็นเข้า อ้าว ท่านติสสะตาย

               แล้ว ทำยังไง จีวรยังไม่ได้ใช้ ก็เลยเอาจีวรมาเพื่อจะแบ่งจีวรกัน พอว่าอย่างนั้นแหละพระติสสะนี่

               ตายแล้วไปเกิดเป็นไรฝุ่นหรือเล็นตัวเล็ก ๆ ตัวสีขาว ๆ เล็ก ๆ อยู่ในจีวรวิ่งรอบจีวร วิ่งไปวิ่งมาร้อง

               ว่า “พระจะมาแย่งจีวรฉัน ๆ” แต่พระไม่ได้ยินหรอก พระมีหูธรรมดา พระจะมาแย่งจีวรฉัน ๆ ฉัน

               ไม่ยอม ๆ วิ่งรอบจีวรผืนนั้นวิ่งทั่วเลย ทีนี้พระพุทธเจ้ามีทิพยโสต ได้ยินเข้า โอ้ อานนท์ รีบไป ๆ ไป

               บอกพระทั้งหลายว่าอย่าไปแตะต้องจีวรนั้นนะมีเจ้าของ  ห้ามเด็ดขาด  พระอานนท์ก็รีบมาบอก

               พระภิกษุทั้งหลายที่จะพากันเอาจีวรไปใช้ เมื่อพระพุทธเจ้ารับสั่งแล้ว พระทั้งหลายก็ไม่กล้าไปแตะ

               ต้องจีวร  ผ่านไป  ๗  วัน  ไรฝุ่นตัวนั้นหรือว่าเล็นตัวนั้นก็สงบไม่มีปฏิกิริยาโกรธแค้นหรือว่าใจไม่

               กระสับกระส่าย  สงบเงียบ  เพราะว่าไม่มีใครมาแตะต้องจีวร  ครบ  ๗  วันเขาก็ตายเอง  วันที่  ๘

               พระพุทธเจ้าจึงอนุญาตให้พระสงฆ์นี่ชักบังสุกุลเอาได้ พระสงฆ์ทั้งหลายก็สงสัยว่าทำไมพระพุทธเจ้า

               จึงห้ามไม่ให้ไปแตะต้องจีวร ท่านก็บอกว่าเพื่อนของเธอชื่อติสสะเขามรณภาพแล้ว ก็มีความห่วงหา

               อาลัยกับจีวรนี้ ในที่สุดเขาก็เลยไปเกิดเป็นไรฝุ่นเกาะในจีวร ถ้าเธอไปแย่งจีวรกันนั้น ไรฝุ่นตัวนั้นจะ

               โกรธมาก  พอโกรธแล้วจากสัตว์เดรัจฉานก็จะกลายเป็นสัตว์นรก  ถ้าตายด้วยความโกรธก็จะเกิด

                                                           ็
               เป็นสัตว์นรก ถ้าตายด้วยความหลงนี่จะกลายเปนสัตว์เดรัจฉาน ถ้าตายด้วยความโลภจะกลายเป็น
               เปรต เขาว่าอย่างนั้น

                     เพราะฉะนั้น คนเรานี่ นาทีวิกฤติของชีวิตนี่ ถ้าหากว่าเราห่วงหาอาวรณ์อะไร อยากจะได้โน่น

               อยากจะได้นี่หรือว่าป่วยมาก ๆ คิดถึงอะไร คิดถึงเรื่องเงิน เรื่องทอง เรื่องเสื้อผ้าซื้อมา หรืออาจจะ

               เป็นโทรศัพท์ก็ได้ ตอนชีวิตจะออกจากร่างนี่มันวุ่นวาย ถ้าไม่มีสมาธิไว้นี่ มันจะทรมานมาก บางคน

               อาจจะเกิดมาเป็นตุ๊กแก อยู่ที่บ้านก็ตุ๊กแก ๆ โอ้ ยุ่งใหญ่แล้วคราวนี้ ลูกเห็นก็รำคาญล่ะทีนี้ ตุ๊กแก ๆ

                                    ั๊
               ร้องอยู่นั่นแหละ  ยิงปบเข้าไปนั่น  ทีนี้ก็เป็นการฆ่าแม่ตัวเองก็ยุ่งใหญ่แหละ  คราวนี้ห่วงลูกก็เลยมา
               วนเวียนอยู่ที่บ้าน ในที่สุดก็ฆ่าแม่ก็โกรธลูกอีก ลงนรกเลยเที่ยวนี้

                                        ่
                     พระพุทธเจ้าจึงตรัสวาอย่าฆ่าสัตว์ เพระว่าสัตว์ทุกชนิดอาจจะเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นสามี เป็น
               ภรรยาของเราที่ตายไปแล้ว เขาอาจจะวนเวียนอยู่แถว ๆ นี้ เพราะฉะนั้น การที่เราสวดมนต์เป็น



                                                           ๗๕
   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80