Page 94 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 94

สามารถเอาคืนได้ดังที่กล่าวไปแล้ว วันเวลามันก็ไม่เป็นไรนี่ แต่ว่าความแก่ชราของเรานี่ซิ ไอ้สังขาร

               ร่างกายของเรานี่ซิ มันมีความสำคัญอย่างมาก เมื่อมีความสำคัญเราก็ต้องดูแลเอาใจใส่ร่างกายของ

               เราให้ดี เมื่อเกิดทุพพลภาพหรือว่าที่มันกำลังระบาดอยู่นี่คือ เชื้อโควิด

                     ทางเถรสมาคม  ก็ประกาศให้พระสงฆ์ได้สวดบทรัตนปริตรทุกวัด  ทางวัดเทพก็จัดสวดทุกวัน

               เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลาย การได้กลับมาพิจารณาตัวเอง มาดูแลตัวเอง จะได้ไม่ประมาท แม้แต่

                                                                                ๊
               พระพุทธเจ้าพระองค์ก็ตรัสเตือนพระอานนท์อยู่บ่อย ๆ ว่า “อานนท์เอย เธอนึกถึงความตายวันละ
               กี่หน” พระอานนท์กราบทูลว่า “นึกถึงความตายวันละ ๑๐๐ หนพระเจ้าข้า” พระพุทธเจ้ายังตรัส

               ว่า “ประมาทอยู่เลย เธอยังประมาทนะอานนท์” แล้วจะต้องทำยังไงพระเจ้าข้า “ต้องนึกถึงความ

               ตายทุกลมหายใจเข้าออก”  โน่น  พระพุทธเจ้าให้ระลึกถึงลมหายใจเข้าออกเลย  เข้าก็รู้  ออกก็รู้

               อย่างเช่นถ้ามันเข้าแล้วไม่ออกก็ตายใช่ไหมล่ะ  ถ้าออกแล้วไม่เข้ามันก็ตาย  พระพุทธเจ้าตรัสอย่าง

               นั้น

                     เพราะฉะนั้น  การที่เรามีชีวิตอยู่นี่  ต้องคำนึงว่า  เราดีกับสามีหรือยัง  เราดีกับภรรยาหรือยัง

               เราดีกับพ่อกับแม่ของเราหรือยัง  เราดีกับลูกของเราหรือยัง  ลูกเราดีกับพ่อแม่หรือยัง  เพื่อนดีกับ

               เพื่อนหรือยัง พวกพ้องดีกับพวกพ้องหรือยัง บริวารดีกับผู้จัดการหรือว่าเจ้านายหรือยัง พระสงฆ์ต่อ

               พระสงฆ์ดีกันหรือยัง อันนี้ต้องมาพิจารณา ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่มีจิต

               ที่คิดอาฆาต พยาบาท จองเวร มีแต่ความเมตตา ความปรารถนาดี เพราะว่าเมื่อละสังขารไปแล้วไม่

               มีอะไรที่จะเป็นแก่นสารในโลกนี้  เราก็ต้องเอาสิ่งที่ดีที่สุดก็คืออริยทรัพย์ที่จะไปกับเราข้ามภพข้าม

               ชาติ นั่นก็คือ “บุญ” บุญคืออะไร บุญก็คือการสวดมนต์นี่แหละ บุญก็คือการนั่งสมาธินี่แหละ บุญ

               คือการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันนี่แหละ  แค่เราให้แมสแก่กันมันก็ดีแล้ว  หรือว่าให้รอยยิ้มแก่กันก็ดีแล้ว

               ทักทายกันก็ดีแล้ว มันเป็นการยื่นไมตรีเรียกว่ายื่นไมตรีจิตให้แก่กันและกัน

                     เพราะฉะนั้น สังคมจะอยู่กันด้วยความเมตตา แต่ถ้าสังคมใดมีแต่ความอิจฉาพยาบาทจองเวร

               กัน  มีแต่ความใส่ร้ายป้ายสีกัน  อันนั้นสังคมนั้นก็จะเดือดร้อน  เพราะเห็นแต่สัตว์ทั้งหลายนี้มัน

                                                                     ้
               ทะเลาะกัน  มาปัจจุบันนี้คนทะเลาะกันมากกว่าสัตว์  ทำรายกันมากกว่าสัตว์และก็รุนแรงกว่าด้วย
               เพราะสัตว์มีแค่เขี้ยว มีแค่เล็บ ประหัตประหารกัน แต่คนมีเครื่องทุ่นแรง เช่น สไนปเปอร์อย่างนี้

               ระเบิดอย่างนี้ รุนแรงมาก เพราะฉะนั้น เราก็พิจารณาว่าในโลกนี้มันก็ต้องมีทั้งคนดีและคนไม่ดี คน

                              ่
                                                        ่
               ดีหน้าตาเป็นอยางไร  คนไม่ดีหน้าตาเป็นอยางไร  มันก็ดูไม่ออก  มันอยู่ที่การกระทำของแต่ละท่าน
               เพราะฉะนั้น  การทำดีไม่ต้องเลือกวันเวลา  ที่พระพุทธเจ้าบอกว่า  “อกาลิโก”  ทำเวลาไหนมันก็ดี

               เวลานั้น เมื่อเราทำแค่ว่า “พุทโธ ๆ” หรือว่าระลึกรู้ลมหายใจเข้าออกก็ถือว่าเราได้ทำความดีแล้ว



                                                           ๙๔
   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99