Page 95 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 95

ั
                     พระพุทธเจ้าตรัสว่า “สติปัฏฐาน ๔” หรือ “กายานุปสสนาสติปัฏฐาน” นี่แหละ การมีสติอยู่
               ที่กาย ยืน เดิน นั่ง นอน คิด ทำ พูดให้มันมีสติอยู่ตลอดเวลา ป้องกันไม่ให้มันทำผิดนั่นเอง มันจะได้

               ทำถูกตลอดไป ถ้าเราพัฒนาได้อย่างนี้ สติของเราก็จะมีเพาเวอร์ มีกำลัง เรียกว่า “พละ” สติพละ

               มันก็จะทำให้เกิดการเตือน การเตือนมากเข้า เมื่อเกิดการเตือนมากเข้า การที่จะทำผิดพลาดมันก็

               น้อยลงไป

                     ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า “กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน” นี่เอง ให้มีสติอยู่ที่กายของเรา นี่

               คือการพัฒนา ถ้าทำได้อย่างนี้ คือ “วอร์มอัพ (Warm up)” วอร์มอัพไปเรื่อย ๆ วอร์มสตินะ ไม่ใช่

               วอร์มอย่างอื่น  วอร์มสติ  มันก็คือเวลาที่เราทำสมาธินี่เข้าขั้นแล้ว  เวลาที่เรานั่งสมาธินี่  กายก็ไม่ได้

               เคลื่อนไหว มีแต่ลมหายใจเข้าออกนี่ ตรงนี้จะลำบาก จะควบคุมยาก เพราะฉะนั้น ถึงจะยากขนาด

                                                                                        ุ
               ไหนเราก็ต้องควบคุม เพื่อการพัฒนาจิตของเราให้ก้าวหน้าต่อไป สาธุ สาธุ สาธ อนุโมทามิ






                       ธรรมะบรรยาย                                                            ๐๓๘

                        ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม
                                                                                     ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔




                                                                                             ่
                     เจริญพรทุก ๆ ท่าน วันนี้เป็นวันที่ ๑๖ วันที่ทุกท่านรอคอย บางคนก็ใจจดใจจอ พอออกมา
               แล้ว บางคนก็ดีใจ ความคาดหวังของคนเรานี้มันก็ดี มันทำให้ตื่นเต้น แต่พระพุทธเจ้าตรัสว่ามันเป็น

               อบายมุข  ทางไปสู่ความฉิบหายหรือว่าความเสื่อม  เพราะฉะนั้น  เราไปคาดหวังกับสิ่งที่มองไม่เห็น

               สิ่งที่คาดคะเนเอานี่ มันก็เป็นลม ๆ แล้ง ๆ สิ่งที่พระพุทธเจ้าแนะนำก็คือ ให้รู้จักความขยัน หมั่น

               เพียร  ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นมานี่  มันเกิดขึ้นมาเพราะบุญกุศลที่เราสั่งสมเอาไว้  บุญกุศลใคร

               มากคนนั้นก็มีโชคมีลาภ คนไหนมีน้อยก็ให้คนที่มีมาก ๆ ก่อน อันนี้มันอยู่ที่เราสะสมเอา จะให้มัน

               เหมือนคนที่เขามีโชคบ่อย ๆ ไม่ได้หรอก เราอยากได้ก็ต้องสะสมบุญเอา

                     เมื่อถึงคราว เราก็ง่าย บุญมันเป็นพลังงานอย่างหนึ่งที่สนับสนุนเราให้เกิดความสำเร็จได้ ถ้า

               หากว่าเราบุญน้อย พลังงานนั้นก็เหมือนหลอดไฟมันริบหรี่อยางนี้ มี ๒ วัตต์ ๓ วัตต์ มันจะเท่ากับ
                                                                       ่
               ๑๐๐ วัตต์ ๑,๐๐๐ วัตต์ ไม่ได้ ยังไงก็ริบหรี่เหมือนหิ่งห้อย หิ่งห้อยมันจะสู้ดวงอาทิตย์ได้อย่างไร

               เพราะฉะนั้น การได้สะสมบุญกุศลเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง น่าสรรเสริญ บุญก็มีตั้ง ๑๐ ข้อเรียกว่า “ทาน



                                                           ๙๕
   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100