Page 97 - Health Impact Assessment of policies related to local pharmaceutical industry development towards technology readiness and access to medicines: HIAPP
P. 97
การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตยาในประเทศด้านความพร้อมของอุตสาหกรรมและการเข้าถึงยา 83
ปรับปรุงพัฒนาระบบ (Impact Value per Band Improvement) โดยมีรายละเอียดแต่ละปัจจัยและวิธีการ
ค านวณดังภาคผนวก ง.
The Singapore Smart Industry Readiness Index มีโรงงานอุตสาหกรรมน าการประเมินความ
พร้อมต่อการก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ไปใช้กว่า 200 แห่ง มีขนาดกลางและขนาดเล็กร้อยละ 33 แบ่งตาม
กลุ่มอุตสาหกรรมได้ 13 กลุ่มใหญ่ ใน 14 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ.2018 – 2019 พบว่ามีการท าก าไร
42
เพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ล้านดอลล่า คิดเป็นร้อยละ 51
ื่
การประเมินด้วย The Singapore Smart Industry Readiness Index ประเทศสิงคโปร์ใช้เพอ
ประเมินความพร้อมของอุตสาหกรรมเพื่อก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ดังนั้นหากน า The Singapore Smart
Industry Readiness Index มาประเมินในไทยอาจไม่เหมาะสมเนื่องจากประเทศไทยยังขาดนโยบายที่ชัดเจน
ในการพัฒนาอุตสาหกรรมยาให้เข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0
การพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศไทยอาจจ าเป็นต้องใช้ปัจจัยหลายด้าน พบการศึกษาเกี่ยวกับการ
พัฒนายาใหม่ของอุตสาหกรรมยาต้องใช้ปัจจัยหลายด้าน ดังการศึกษาของ Yousefi, Mehralian, Rasekh, &
Yousefi, 2017 เรื่อง“New Product Development in the Pharmaceutical Industry: Evidence from
43
a generic market” จากการทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อความส าเร็จของการพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ใหม่พบว่า มีปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความส าเร็จของการพัฒนายาใหม่ ดังนี้
1. ปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องกบบริษัท (Company-related factors)
ั
2. ปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวผลิตภัณฑ์ (Product-related factors)
3. ปัจจัยภายนอกที่เกี่ยวข้อง (External context-related factors)
จากปัจจัยหลักทั้งสามข้อข้างต้นนั้นได้มีการทบทวนวรรณกรรมและสามารถจัดเป็นปัจจัยย่อยขั้นที่ 1
และขั้นที่ 2 ได้ดังตารางที่ 5
42
EBD Singapore. (2019). MANUFACTURING INSIGHTS REPORT 2019 TRANSFORMATION.
43 Yousefi, N., Mehralian, G., Rasekh, H. R., & Yousefi, M. (2017). New product development in the
pharmaceutical industry: Evidence from a generic market. Iranian Journal of Pharmaceutical Research,
16(2), 831–843. https://doi.org/10.22037/ijpr.2017.2058