Page 3 - Efavirenz WHO PQ: A case study of a public-private collaboration
P. 3

Efavirenz WHO PQ: กรณีศึกษาความร่วมมือรัฐ-เอกชน ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและควบคุมคุณภาพ   | ข





                                                             ค าน า






                              ยาต้านไวรัสเอดส์ Efavirenz Tablets 600 mg ขององค์การเภสัชกรรม ประเทศไทย (อภ.)
                       ได้รับการรับรองให้อยู่ในบัญชีรายการ จาก WHO Prequalification Programme ขององค์การ

                       อนามัยโลกเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2561  ซึ่งเป็นความส าเร็จอกก้าวหนึ่งที่ส าคัญของ อภ. ในการ
                                                                            ี
                       รักษามาตรฐาน  ดังนั้นเพอให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวางแก่หน่วยงาน บริษัทผู้ผลิตยา และ
                                             ื่
                       สถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ ต่อการยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตยาของไทยและประเทศ

                       ต่างๆ จึงควรศึกษากระบวนการที่ อภ.ได้ปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะอย่างเข้มงวดจากการตรวจ

                       รับรอง WHO PQ ขององค์การอนามัยโลกที่ผ่านมา
                              รายงานวิจัยเรื่อง Efavirenz WHO PQ: กรณีศึกษาความร่วมมือรัฐ-เอกชน ในการถ่ายทอด

                                                                      ื่
                       เทคโนโลยีการผลิตและควบคุมคุณภาพ ได้จัดท าขึ้นเพอสรุปบทเรียนการท างานร่วมกันระหว่าง
                       องค์การเภสัชกรรมกับ Mylan ในด้านการผลิต และการควบคุมคุณภาพ ที่น าไปสู่การรับรอง
                       มาตรฐาน WHO Prequalification ซึ่งผลจากการวิจัยนี้น าไปสู่ข้อเสนอแนะในการพฒนาแนวทาง
                                                                                              ั
                                                                                       ื่
                       เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีได้จริง และได้คู่มือแนวทางการด าเนินงานเพอให้ผลิตภัณฑ์สามารถ
                       ผ่าน WHO PQ ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะก่อประโยชน์ไม่เฉพาะองค์การเภสัชกรรม
                       เท่านั้น แต่อุตสาหกรรมยาในประเทศก็สามารถได้รับประโยชน์จากงานวิจัยนี้อีกด้วย






                                                                                 คณะผู้วิจัย
   1   2   3   4   5   6   7   8