Page 144 - แผนการสอน 63-2
P. 144
1. ของแข็งโมเลกุลอยู่ใกล้กัน มีแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลมาก จึงมีปริมาตรและรูปร่างแน่นอน
2. ของเหลวมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้อยกว่าของแข็ง โมเลกุลของเหลวจึงเคลื่อนที่ตลอดเวลา
3. แก๊สเป็นสถานะที่มีเเรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลน้อยที่สุด
4. ของแข็งเป็นสถานะที่โมเลกุลไม่มีการสั่นจึงไม่มีความร้อนอยู่เลย
8. ความจุความร้อนจ าเพาะหมายถึงข้อใด
1. พลังงานความร้อนที่ให้แก่สาร
2. พลังงานความร้อนที่ให้แก่สารต่ออุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น
3. พลังงานความร้อนที่ให้แก่สารต่อหนึ่งหน่วยมวล
4. พลังงานความร้อนที่ให้แก่สารต่อหนึ่งหน่วยมวลต่อหนึ่งหน่วยอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น
9. สาร A มีความจุความร้อนจ าเพาะมากกว่าสาร B สารทั้งสองมีมวลเท่ากัน เมื่อให้ความร้อนแก่สารทั้งสอง
เท่ากันที่อุณหภูมิห้อง ข้อใดถูกต้อง
1. อุณหภูมิสาร A มากกว่าสาร B
2. อุณหภูมิสาร A น้อยกว่าสาร B
3. อุณหภูมิสาร A เท่ากับสาร B
4. ความจุความร้อนของสาร A เท่ากับสาร B
10. การอ่านอุณหภูมิจากเทอร์มอมิเตอร์ มีหลักการอ่านอย่างไร
1. ระดับสายตาอยู่ต่ ากว่าระดับของเหลวในเทอร์มอมิเตอร์
2. ระดับสายตาอยู่สูงกว่าระดับของเหลวในเทอร์มอมิเตอร์
3. ระดับสายตาอยู่ระดับเดียวกับระดับของเหลวในเทอร์มอมิเตอร์
4. ระดับสายตาอยู่ในระดับใดก็ได ้
11. เทอร์มอมิเตอร์แบบเซลเซียสที่จุดเยือกแข็ง (0 °C ) จะอ่านค่าในเทอร์มอมิเตอร์แบบองศาฟาเรนไฮต์ได้
เท่าใด
1. 32 องศาฟาเรนไฮต 2. 40 องศาฟาเรนไฮต์
์
์
3. 80 องศาฟาเรนไฮต 4. 273 องศาฟาเรนไฮต ์
12. อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ถ้าแปลงค่าไปเป็นเคลวิน จะอ่านค่าได้เท่าใด
1. 0 เคลวิน 2. 212 เคลวิน
3. 100 เคลวิน 4. 373 เคลวิน
13. ตัวเลขบอกอุณหภูมิในหน่วยเคลวิน (K) กับหน่วยองศาเซลเซียส (°C) ต่างกันเท่าใดเสมอ
1. 80 2. 90
3. 100 4. 273
14. อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส สามารถแปลงได้เป็นกี่เคลวิน ( K )
1. 300 เคลวิน 2. 310 เคลวิน
3. 320 เคลวิน 4. 330 เคลวิน
15. เทอร์โมมิเตอร์ชนิดเซลเซียสวัดอุณหภมิของสารได้ 0 องศาเซลเซียส ถ้าใช้เทอร์โมมิเตอร์ แบบองศา
ู
ฟาเรนไฮต์จะเปลี่ยนแปลงเท่าใด
1. 0 องศาฟาเรนไฮต์ 2. 32 องศาฟาเรนไฮต ์
3. 100 องศาฟาเรนไฮต ์ 4. 373 องศาฟาเรนไฮต ์
16. ถ้าน าน้ าดื่มไปวางไว้ที่อุณหภูมิ 194 °F น้ าจะมีลักษณะตามข้อใด
2