Page 9 - Al Furgan 25 - 8Dec-0858 ebook_Neat
P. 9

NOTHING CHANGES IF NOTHING CHANGES
                               NOTHING CHANGES IF NOTHING CHANGES
               “(มุฮัมหมัด) จงกลาวเถิดวา แทจริงส่งท่พระเจาของฉันทรงหามฉัน
                                                  ิ
                                                    ี
         ็
                                        ี
                    ิ
                       ่
                       ั
                              ั
                                 ี
                                      ั
                                      ้
                                                              ิ
        กคือ บรรดาส่งชวชานารงเกยจ ทงท่เปดเผยและไมเปดเผย ส่งทเปนบาป การ
                                                                ี
                                                                ่
        ขมเหงรังแกโดยไมเปนธรรม และการที่พวกเจาตั้งใหเปนภาคีกับอัลลอฮ ดวยสิ่ง
        ท่พระองคมิไดประทานหลักฐานใด ๆ มาแกส่งน้น และการท่พวกเจากลาวให
                                                  ั
                                                ิ
          ี
                                                              ี
        รายอัลลอฮในสิ่งที่พวกเจาไมมีความรู”
                                                               (อัลอะรอฟ : 33)
               อัลลอฮ  ทรงมีบัญชาใหคนที่ไมรูถามคนที่รู ดังดํารัสของพระองคที่วา
                                                   َ
                                 َ
                              َ ُ ۡ َ  َ  ۡ ُ  ُ  ۡ ّ  َ ۡ ْ ُ ٓ َ ۡ َ
                         ﴾ ٧ نوملع� ال متنك نِإ ركِ��ٱ لهأ اولٔـسف ﴿
                                            ِ
               “ดังนั้น พวกเจาจงถามบรรดาผูรูเถิด หากพวกเจาไมรู”
                                                             (อัลอันบิยาอ 21:7)
               ทานรอซูล  ปฏิเสธไมยอมรับกลุมชนที่ชี้ขาดปญหาโดยไมมีความรู ทาน
        ไดกลาววา
                                     َ
                                    ُ ّ َ ْ  َ َ  ُ  َ  َ  َ َ
                                 ( اوملعي مل اذِإ اولأس الأ )
               “ทําไมเลาพวกเขาจึงไมถาม เมื่อพวกเขาไมรู?”

               บาวของอัลลอฮทั้งหลาย การศึกษาหาความรูนั้นมีสองประการ
               ประการแรก เปนภาระหนาท่ของมุสลิมทุกคน จะละท้งไมไดเปนอันขาด
                                                             ิ
                                        ี
        แมสักคนเดียว ท่เขาตองเรียนก็เพ่อเปนการดํารงศาสนาเอาไว เชน บทบัญญัติตาง ๆ
                                    ื
                      ี
        (อะหกาม) หลักเชื่อมั่น (อะกีดะฮ) ที่สะอาดบริสุทธิ์ การละหมาด การจายซะกาต
        การถือศีลอด การทําฮัจญ ฯลฯ เปนตน ทั้งนี้เพื่อจะไดปฏิบัติอิบาดาตเหลานี้ไดถูก

                                         ี
                                                            ี
                       ิ
                              ี
        ตอง การเรียนรูส่งเหลาน้นับเปนหนาท่ของทุกคน จะหลีกเล่ยงไมไดเปนอันขาด
        (ฟรฎอัยน)
               ประการที่สอง คือสิ่งที่เพิ่มเติมนอกเหนือไปจากที่ไดกลาวมาแลว เชน บท
                                            ี
                                                                  ิ
                                                         
        บญญตอน ๆ ในดานเศรษฐกจ สงคม คาสงเสย มรดก การแตงงาน การพพากษา การ
                                  ั
              ิ
             ั
                               ิ
               ่
                      
               ื
                                         ่
                                         ั
                                       ํ
          ั
        ซื้อขาย ทําธุรกรรม ฯลฯ เหลานี้ถือเปน “ฟรฎ กิฟายะฮ” เมื่อมีผูหนึ่งผูใดเรียนและ
              c

        2023 |  ﺮﻴﻐﺘﺗ ﻢﻟ ﺎﻣ ﺮﻴﻐﺘﻳ ءﻲﺷﻻ                               1BHF                       Page 17

















                              2023 |  ﺮﻴﻐﺘﺗ ﻢﻟ ﺎﻣ ﺮﻴﻐﺘﻳ ءﻲﺷﻻ                                                                          Page 17
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14