Page 145 - THAMMASAT PRINTING HOUSE
P. 145
ใหเกิดข้ึน ความเหงาจึงเปนความรูสึกท่ีดํารงอยูกับมนุษยชาตเิ รื่อยมา เพราะ มันเปนปจจัยท่ีจําเปน ซึ่งจะนําไปสูการเปนสัตวสังคมของเหลามนุษย
นอกจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาของสตีฟ โคล (Steve cole) (อางถึงใน Tomorn Sookprecha, 2561 : ออนไลน) นักวิจัยดานพันธุ ศาสตร จากมหาวิทยาลัยแหงรัฐแคลิฟอรเนียในลอสแองเจลิสที่กลาววา คน ที่มีความเหงานั้นจะมีระดับของสารนอรอีพิเนฟริน (Norepinephrine) ใน เลือดสูงกวาคนปกติทั่วไป ซึ่งสารนี้มักจะเกิดขึ้นกับบุคคลที่ตกอยูใน สถานการณถึงเปนถึงตาย จึงไดมีการกระตุนใหรางกายตื่นตัว รวมถึงผลิต เซลลเม็ดเลือดขาวออกมา รวมท้ังไปปดก้ันระบบภูมิคุมกันดวย ดังนั้นโคลจึง ไดอภิปรายผลการศึกษาไววา คนที่มีความสัมพันธทางสังคมแข็งแรง กลาว คือ ไมไดเปนบุคคลที่มีความเหงาก็มักจะเปนบุคคลที่มีภูมิคุมกันแข็งแรงไป ดวย การศึกษาของเขาจึงเปนเครื่องยืนยันไดวา ความเหงานั้นเกี่ยวพันกับ ระบบในรางกายซึ่งก็จะสัมพันธไปกับวิวฒั นาการของมนุษยเชนกันและไม วาอะไรก็ตามที่สัมพันธกับวิวัฒนาการของมนุษยน้ัน ก็มักจะเกิดข้ึนควบคูไป กับปจจัยที่เกี่ยวของกับสังคมดวย ดวยเหตุที่วามนุษยเราเปนสัตวสังคมที่มี วิวัฒนาการรวมกัน ซึ่งเมื่อมีการดํารงอยูของสังคม สิ่งที่เรียกวา ‘อํานาจ’ หรือ ‘การเมือง’ ก็มักจะเขามามีบทบาทเกี่ยวของดวยเสมอ และเมื่อมีการ กลาวถึงการเมืองและสังคม ก็เปนไปไดอีกเชนกันที่ความเหงาจะไมไดเปนแค ปญหาของปจเจกอีกตอไป โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของ ‘ความเหงายุคใหม’ หรือ Modern Loneliness อาจสะทอนถึงการเกิดขึ้นของความเหงาที่เปน เพราะ ‘โครงสราง’ ของสังคมที่มนุษยทุกคนจําเปนตองดํารงอยู ซ่ึงไดเอื้อให เกิด ‘ความเหงา’ ขึ้นภายในจิตใจอยางที่ไมเคยเกิดขึ้นมากอนในประวัติ ศาสตรวิวัฒนาการและการดํารงอยูของมนุษย
ไมเพียงเทานั้นจอหน คาเชียพโพ (John Cacioppo) (อางถึงใน Tomorn Sookprecha, 2561 : ออนไลน) ยังไดกลาวอีกวา นอกจากความ 137