Page 31 - การทำสวนยางฯ ศวย.นค.ปกแดง E_book
P. 31

3.  การตัดแตงกิ่งเพื่อปองกันความเสียหายจากลม
                                                                           ี
                                                                     
                                                         ั
                                                             
                         ภายหลังตัดแตงกิ่งยางออนแลว ไมควรตดแตงอีก ยกเวนกรณที่
                                                                  
            ตนยางนั้นมีทรงพุมแนนทึบ แตกกิ่งกานไมสมดุล จึงทําการตัดแตงใหมอีกครั้ง
                                                                     ั
            โดยเฉพาะอยางยิ่งบริเวณที่มีกระแสลมรุนแรงพัดเปนประจํา ควรตดกิ่งที่อย ู
            ภายในทรงพุมและกิ่งที่ไมสมบูรณแข็งแรง หรือมีทิศทางไมสมดุลออก เพื่อชวย
            ใหลมพัดผานไดสะดวก ปองกันมิใหกิ่งกานและทรงพุมฉีกขาด หรือโคนลม
                    4.  การตัดแตงกิ่งตนยางที่เกิดความเสียหายจากลม

                        
                                
                         ตนยางที่ไดรับความเสียหายจากลม ควรรีบตดแตงกิ่งที่ฉกขาด
                                                                       ี
                                                             ั
                                                                 
                                                                         
                                
            หรือแตกออกจากลําตนใหหมดทันที เพื่อมิใหความเสียหายลุกลามตอไป
            จากนั้นตองตัดแตงกิ่งที่เหลืออยูแตมีทิศทางไมสมดุลกับกิ่งบางสวนออก เพื่อมิ
            ใหทรงพุมหนักไปขางใดขางหนึ่ง
                                                             
                               
                                       
                                                                          
                         สําหรับตนยางที่ไดรับความเสียหายเพียงแคทรงพุมเอนไปขาง
                                           ั
                                  
                                      
            หนงขางใดมาก หรือลําตนโคง ใหตดแตงกิ่งดานที่หนกไมสมดลออก เพื่อ
                                                                   ุ
                                                           ั
                                               
                                                    
                 
               ึ่
            ปองกันมิใหตนยางโคนลม หรือถอนราก เนื่องจากกระแสลมอีกตอไป
            ขอควรปฏิบัติในการตัดแตงกิ่ง
                          ั
                    1. ควรตดแตงกิ่งในชวงตนและปลายฤดูฝนเทานั้น
                    2. เครื่องมือและอุปกรณตดแตงกิ่งตองคมและสะอาด เพื่อปองกัน
                                                   
                                         
                                          ั
                                              
            เปลือกฉีกขาดเปนรอยแผลขนาดใหญ และเชื้อราเขาทําลายทางบาดแผล
                    3. กรณีกิ่งแขนงแตกใหมยังออนมาก ตองตัดใหชิดลําตนมากที่สุด
                                                          
                    4. กรณีกิ่งแขนงขนาดใหญ ควรแบงตดอยางนอย 2 ครั้ง ครั้งแรกใช 
                                                       
                                                   ั
                                       
                  ั
                                                            
            เลื่อยตดใหหางจากบริเวณลําตนพอสมควร โดยเลื่อยดานลางของกิ่งใหลึก
                                                                           ั้
                                                                    ี
                                                       ี้
            พอสมควรกอน จึงกลับมาเลื่อยดานบนจนขาด ทั้งนเพื่อปองกันกิ่งฉก จากนน
            จึงเลื่อยครั้งที่สองเปนการตัดชิดลําตน
                    5. สําหรับการตัดกิ่งแขนงที่อยูสูง หามโนมตนยางลงมาตด เพราะจะ
                                                                  ั
            ทําใหไสของตนยางในเนื้อไมแตก ตนยางอาจตายได  
                    6. หลังตัดแตงใชปูนขาว หรือปูนแดง หรือสีน้ํามันทาบริเวณแผลที่ตัด
            ปองกันเชื้อโรคเขาทําลาย
                                 ……..………………………………………..….
            การทําสวนยางพาราตามหลักวิชาการของสถาบันวิจัยยางในพื้นที่ปลูกยางใหม    หนา 27
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36