Page 15 - คู่มือการปฏิบัติทางการเกษตรดีที่เหมาะสมสำหรับยางพารา
P. 15
11
4.6 โรคยางพาราที่สาคัญและการปองกันก าจัด
้
โรคราก
ิ
ี
โรครากของยางพาราทส าคัญในประเทศไทยม 3 ชนดคือ โรครากขาว โรครากน ้าตาล และ
ี่
ุ
ี่
ิ
ู
ื
ื
็
โรครากแดง สาเหตเกดจากเช้อเหดราชั้นสง เช้อราเข้าท าลายระบบราก ท าให้ต้นยางทเปนโรคยืนต้นตาย โรค
็
จะลุกลามไปสต้นยางรอบรศมของต้นทเปนโรคทั้งในแถวและระหว่างแถว หากปล่อยไว้โรคจะขยายลุกลาม
ี
ี
่
็
่
ั
ู
ิ
ท าให้ต้นยางตายเพิ่มขึ้นและรายได้ลดลงตลอดอายุการให้ผลผลตของสวนยาง
้
ี
การปองกันก าจัดโรครากให้ประสบผลส าเรจต้องใช้วิธการจัดการแบบผสมผสาน ทั้งการ
็
ุ
ี
ี
ิ
ิ
ิ
ปฏบัตทางเขตกรรม การท าความสะอาดแปลงปลูก การใช้สารเคม และการเพิ่มประสทธภาพของจลนทรย์ท ่ ี
ิ
ิ
่
ิ
ึ
ี
ี
ิ
่
็
เปนประโยชน์ในดน โดยเร่มตั้งแตการเตรยมแปลงปลูกจนถงระยะเก็บเกยวและโค่น ได้แก่ เตรยมพื้นทปลูก
ี
ี
่
ิ
ิ
ในชวงแล้ง โดยก าจัดตอไม้หรอรากไม้เดมออกจากแปลง ให้ไถพลกดนตากแดดอย่างน้อย 2 คร้ง แตละคร้ง
ิ
ั
่
่
ื
ั
ิ
่
็
่
ี่
ี
หางกัน 10-20 วัน ในแปลงยางปลูกแทนทมประวัตเปนโรคราก ไม่ควรปลูกยางในชวง 1-2 ปแรก แต่ให้ปลูก
ี
่
่
พืชล้มลุกอายุสั้นทดแทนก่อน เชน พืชไรตระกูลถั่ว พืชคลุม พืชตระกูลแตง ข้าวโพดหรอข้าวไร เพื่อตัดวงจร
่
ื
ี
่
ื
ิ
ิ
่
ิ
ชวตเช้อราโรครากทมชวตอยูในเศษรากไม้ในดน
ี
ี
ี
ี
ิ
ื
ิ
้
็
ี
่
ปองกันต้นยางปลูกใหม่ตดเช้อราโรครากขาวในแปลงยางทมประวัตการเปนโรคมาก่อน ใส ่
ั
ื
๋
ิ
๋
ื
ก ามะถันผง หรอปุยยูเรย (46-0-0) อัตรา 100-200 กรม ผสมกับดนในหลุมท้งไว้ 15 วันก่อนปลูกยาง หรอใช้ปุย
ิ
ี
่
ั
ิ
ี
แอมโมเนยมซัลเฟต 200-300 กรม ผสมกับดนและกลบปลูกต้นยางได้โดยไม่ต้องท้งชวง จากนั้นใสซ ้าอัตรา
่
ิ
่
ี
่
ื
ิ
่
ี
ิ
ื
ึ
เดมทุก 4 เดอนในชวงทดนมความช้น โดยโรยและกลบตามแนวรอบทรงพุ่มในชวงแรกปลูกถง 2 ป ี ไม่ควร
่
ี่
ิ
่
ื่
โรยให้ชดต้น เนองจากท าให้เกดอันตรายกับต้นยาง และยูเรยไม่ควรใสในชวงทยางใบอ่อน
ิ
ี
การควบคุมโรคหลังปลูก ตรวจสอบการเปนโรคโดยการสังเกตลักษณะใบ ลักษณะโคนต้น
็
ั
็
ิ
ุ
ี
ี
และราก หากพบต้นยางเปนโรครนแรง ให้ขุดออก ต้นยางทเร่มแสดงอาการทางใบ ให้ใช้สารเคมรกษาและ
่
้
็
ิ
ี
ปองกันต้นข้างเคียง โดยขุดดนออกจากโคนต้นให้เปนรองรอบโคนกว้าง 30-45 เซนตเมตร และราดสารเคมท ี่
่
ิ
ิ
ผสมน ้าลงไปรอบโคนต้นปรมาณ 1-4 ลตรขึ้นกับขนาดของต้นยาง โดยไม่ต้องกลบดน และใช้สารเคมซ ้าทุก
ิ
ี
ิ
ั
ี
็
่
ื
4-6 เดอนอย่างน้อย 2 คร้ง และให้ตรวจสอบต้นยางสม าเสมอ หากพบต้นยางเปนโรคในชวง 3 ปแรก แสดงว่า
่
้
ี
ื
ิ
ิ
ื
บรเวณหลุมปลูกหรอบรเวณใกล้เคียงมแหล่งเช้ออยู ให้ขุดท าลาย รวมกับการขุดรองเพื่อปองกันการลุกลาม
่
่
่
ิ
ี
ของโรค กว้าง 30 เซนตเมตร ลก 60 เซนตเมตร ระหว่างต้นถัดจากต้นยางแสดงอาการทางใบในแถวเดยวกัน
ึ
ิ
ข้างละ 2 ต้น และกงกลางระหว่างแถวข้างเคียงของแถวยางทพบโรคกับแถวถัดไปทั้งสองข้าง
่
ึ
่
ี