Page 120 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 120
110
การกัดเซาะชายฝั่ง โดยการใช้ภูมิปัญญาในท้องถิ่นและประสบการณ์ของตนเอง ท าให้ชุมชนรู้ว่าควร
ใช้วิธีการใดที่เหมาะสมในการจัดการการปูองกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งภายในพื้นที่
เมื่อโครงการของชุมชนประสบความส าเร็จ ท าให้ชุมชนให้คุณค่าและเชื่อมั่นในตนเอง โดยพึ่งพา
ตนเองไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากหน่วยงานใด เกิดการรวมตัวกันเพื่อพัฒนาและปกปูองของใน
พื้นที่ของตนเองให้อยู่ได้นานต่อไป โดยมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ 2 ด้าน ได้แก่
4.1 การเปลี่ยนแปลงทางด้านกายภาพและชีวภาพ
หลังจากมีการปักแนวไม้ไผ่ การกัดเซาะชายฝั่งน้อยลง ช่วยลดความรุนแรงของ
ลมทะเล เรือสามารถวิ่งในแนวไม้ไผ่ได้ (ซึ่งเดิมลมที่พัดเข้าฝั่งแรงมากไม่สามารถขับเรือในช่วงนั้นได้
จึงเป็นที่หาหอยของชาวประมง) เกิดตะกอนดินเพิ่มมากขึ้นทั้งในหลังแนวไม้ไผ่และหน้าแนวไม้ไผ่
ท าให้สัตว์น้ ามีที่อยู่อาศัย เป็นที่อนุบาลของสัตว์น้ า บางจุดมีดอนหอยหลอดกั้นเป็นดินเลนปนทราย
แนวไม้ไผ่ที่ปักท าให้ดินตะกอนมีมากขึ้นถึง 4 ชั้นขยายมาด้านชุมชน นอกจากนี้เป็นที่กันขยะได้อีกด้วย
มีการปลูกไม้เสริมในปุาชายเลน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นไม้โกงกางใบใหญ่ และมีการทยอยปลูกเพิ่มเติม
จากแนวชายฝั่งลงไปในตะกอนเลน ท าให้ทรัพยากรสัตว์น้ าเพิ่มมากขึ้น มีกุ้ง มีปูหลายสายพันธุ์ เช่น
ปูก้ามดาบ ปูแสม มีปลาตีน และปลาทูเข้ามาทุกเดือน บริเวณนอกแนวไม้ไผ่เป็นดินตะกอนเลน
มีหอยแครงเกิดขึ้นจ านวนมาก ชาวบ้านสามารถหาได้หลายกิโลกรัมต่อวันและเก็บหอยแครงได้ตลอดปี
และมีหอยแมลงภู่ หอยจุ๊บแจงเพิ่มขึ้น มีเคยที่น ามาท ากะปิจ านวนมาก นอกจากนี้มีนกกระยางมาอาศัย
อีกด้วย
4.2 การเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและสังคม
ชาวบ้านมีแหล่งอาหารที่เพิ่มขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น มีอาชีพที่ดีขึ้น สิ่งแวดล้อมดีขึ้น
มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพิ่มขึ้น เป็นที่ศึกษาดูงานของนักเรียน และบุคคลอื่นๆ มีกลุ่มอนุรักษ์เข้ามา
เยี่ยมเยียนในพื้นที่ ชาวบ้านมีการพูดคุยปรึกษา หารือคนในชุมชนมีความรู้ความเข้าใจในปัญหาการ
กัดเซาะและการอนุรักษ์ชายฝั่ง และเกิดเครือข่ายชุมชนระหว่างจังหวัด มีเครือข่ายชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน
ประกอบด้วย จังหวัดเพชรบุรี ชลบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ ซึ่งแต่ละ
จังหวัดมีตัวแทนจากกลุ่มเข้าประชุมอย่างสม่ าเสมอ ในการปูองกันการกัดเซาะชายฝั่ง และก าลังขยาย
เครือข่ายไปเชื่อมกับเครือข่ายฝั่งอ่าวไทยในภาคใต้ โดยมีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็น
ผู้ประสานหลักอีกด้วย
5. ปัจจัยความส าเร็จ
5.1 การที่ผู้ใหญ่วิสูตร นวมศิริ ซึ่งเป็นผู้น าชุมชนที่มีความรู้ มีประสบการณ์ทางด้านการ
พัฒนาและการปูองกันการกัดเซาะชายฝั่ง มีความเสียสละและอุทิศเวลา และได้รับความเลื่อมใส
ศรัทธาในพื้นที่ต าบลอื่นๆ อีกด้วย มาเป็นแกนน าในการขับเคลื่อนให้เกิดการรวมตัวกันของชาวบ้าน
บางบ่อล่าง หมู่ที่ 10 ได้ร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหาการปูองกันการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ของตนเอง
โดยการร่วมมือของชาวบ้านในพื้นที่ มีการแบ่งปันน้ าใจซึ่งกันและกัน รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ระหว่างชุมชนข้างเคียงให้เกิดการมีส่วนร่วมกันเป็นเครือข่ายระหว่างจังหวัด
5.2 มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ความรู้และสนับสนุนงบประมาณ ได้แก่
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมเจ้าท่า องค์การบริหารส่วนจังหวัด และมหาวิทยาลัยสุโขทัย-
ธรรมาธิราชอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน