Page 213 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 213
203
4.2 การสร้างเครือข่ายชุมชนในการปูองกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งผ่าน
สังคมออนไลน์ (Social Media)
ในปัจจุบันนี้เห็นได้ชัดเจนว่าเทคโนโลยีสังคมเครือข่ายออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาท
ทั้งทางด้านการเมือง สังคม เศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก รวมไปถึงการน าเสนอข้อเท็จจริงใดๆ
จนกลายเป็นกระแสสังคม โดยลักษณะของเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เป็นที่แพร่หลายในปัจจุบันนี้ คือ
เครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่เริ่มต้นจากการสมัครเข้าเป็นสมาชิกก่อน โดยการสมัครนั้นไม่ได้มีการคิดค่า
สมาชิกหรือค่าเข้าใช้บริการ ผู้ใช้จะมีหน้ากระดานของตนเอง เพื่อใช้ในการน าเสนอข้อมูล หรือเรื่องราว
ของตนเอง หรือสิ่งที่ตนเองต้องการสื่อให้ผู้อื่นทราบจากนั้นจะท าการส่งข้อความ Message ท าการ
เชิญชวนบุคคลอื่นมาติดต่อเป็นกลุ่มเดียวกัน โดยการน าเอาเครือข่ายสังคมออนไลน์มาผนวกเป็นการ
ท างานในรูปแบบเครือข่าย จึงเป็นการสร้างเครือข่ายที่ทรงพลังและมีอิทธิพลมากเนื่องด้วยการเข้าถึง
ข้อมูลท าให้เครือข่ายเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งกลุ่มในเครือข่ายเอง หรือกลุ่มบุคคลภายนอกเครือข่าย
อีกทั้งยังเครือข่ายสามารถเข้าพบปะปรึกษาและแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้ตลอดเวลาเพียงแต่มีการ
ออนไลน์เท่านั้น สะดวกต่อการท างานและลดค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมหรือค่าเดินทางลงเป็นอันมาก
อีกทั้งยังสะดวกต่อการขยายเครือข่าย และการด าเนินการต่างๆ มีความต่อเนื่องอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ การด าเนินการตามโครงการฯ คณะผู้วิจัยศึกษาได้ด าเนินการขอฉันทามติจาก
ผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาในแต่ละจังหวัดจัดตั้งเครือข่ายที่ตกลงยินดีท างานร่วมกัน เพื่อสร้างโอกาส
ให้กับภาคประชาชนในพื้นที่ของตนในการรับรู้เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากกฎหมายข้อมูลข่าวสารของ
ราชการ โดยได้ให้ฉันทามติและตกลงตั้งชื่อเครือข่ายว่า “เครือข่ายชุมชนในการปูองกันและแก้ไข
ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง” โดยสมาชิกประกอบด้วย ประชาชนผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียที่ประสบปัญหา
การกัดเซาะชายฝั่งทั้ง 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา
และชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ข้าราชการ คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และบุคคล
ภายนอกที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ปัจจุบันมีสมาชิกจ านวนทั้งสิ้น 84 คน
ดังปรากฏในภาพที่ 4.55