Page 14 - บทที่ 10 เสียง
P. 14
12
รูปที่ 35 การเกิดปรากฏการณ์ดอปเพลอร์
ั
ถ้าแหล่งก าเนิดเสียงอยู่นิ่ง แต่ผู้ฟงเคลื่อนที่เข้าหาหรือออกห่างจากแหล่งก าเนิดเสียง ผู้ฟงจะได้ยิน
ั
เสียงที่มีความถี่แตกต่างจากความถี่ของแหล่งก าเนิดเสียงเช่นกัน โดยผู้ฟงจะได้ยินเสียงที่มีความถี่สูงขึ้นเมื่อ
ั
ั
ั
ผู้ฟงเคลื่อนที่เข้าหาแหล่งก าเนิดเสียง และผู้ฟงจะได้ยินเสียงความถี่ต่ าลง เมื่อผู้ฟงเคลื่อนที่ออกจาก
ั
ั
แหล่งก าเนิดเสียง นั่นคือ ถึงแม้แหล่งก าเนิดเสียงจะอยู่นิ่ง แต่ผู้ฟงมีการเคลื่อนที่ ก็จะเกิดปรากฏการณ์ดอป
เพลอร์เช่นกัน
รูปที่ 36 ลักษณะหน้าคลื่นน้ าเมื่อปลายดินสอซึ่งเป็นแหล่งก าเนิดคลื่นเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วต่าง ๆ
ั
ิ่
เมื่อแหล่งก าเนิดคลื่นเคลื่อนที่ในตัวกลาง ถ้าอตราเร็วของแหล่งก าเนิดคลื่นเพมขึ้น หน้าคลื่นที่อยู่
ึ้
ั
ทางด้านหน้าแหล่งก าเนิดคลื่นจะถูกอดกันและอยู่ใกล้กันมากขน จนกระทั่งเมื่ออตราเร็วของแหล่งกาเนิดคลื่น
ั
เท่ากับอัตราเร็วของคลื่นในตัวกลาง หน้าคลื่นทุก ๆ หน้าคลื่นที่ออกจากแหล่งก าเนิดคลื่นจะเคลื่อนที่ไปพร้อม
ั
ั
ๆ กันกับแหล่งก าเนิดคลื่นดังรูป 36 ข ถ้าอตราเร็วของแหล่งก าเนิดคลื่นมากกว่าอตราเร็วคลื่นในตัวกลาง
แหล่งก าเนิดคลื่นจะเคลื่อนที่ผ่านพนหน้าคลื่นทุก ๆ หน้าคลื่นที่อดตัวกันออกไป และหลังจากนั้นหน้าคลื่นจะ
้
ั
อัดตัวกันไปในลักษณะที่เป็นหน้าคลื่นวงกลมซ้อนเรียงกันไปตามแนวการเคลื่อนที่ของแหล่งก าเนิดคลื่น โดยมี
แนวหน้าคลื่นที่อดตัวกันมีลักษณะเป็นรูปมุมแหลม เรียกว่าหน้าคลื่นของ คลื่นกระแทก (shock wave) ดังรูป
ั
ที่ 37 ก โดยพลังงานที่แต่ละหน้าคลื่นพาไปจะเสริมกันบนหน้าคลื่นกระแทก
รูปที่ 37 คลื่นกระแทกใน 2 มิติ