Page 64 - รายงานสำรวจและจัดทำแผนผังถ้ำ เขตอุทยานแห่งชาติภาคใต้
P. 64
56
3.2.10 แผนผังถ้ำแก้ว
ข้อมูลทั่วไป : ถ้ำแก้วตั้งอยู่ในเกาะลานา เขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ตำบล
เกาะปันหยี อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา พิกัดที่ 442457 ตะวันออก 909954 เหนือ เดินทางโดย
รถยนต์จากอำเภอเมืองพังงา ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 มุ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ แล้วเลี้ยวซ้ายใช้ทาง
ั
หลวงหมายเลข 4144 ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติอ่าวพงงา ระยะทางประมาณ 7.2 กิโลเมตร และนั่งเรือ
จากอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาถึงถ้ำแก้ว ระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร
ลักษณะเด่น : เป็นถ้ำชายฝั่งทะเลหรือถ้ำทะเล และถ้ำที่เกิดจากการละลาย ช่องที่ลึกเข้า
ไปในเกาะลานา เกาะขนาดเล็กกลางทะเล เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลจนเป็นช่องหรือโพรงขนาดเล็ก
ภายในมีห้องขนาดใหญ่ที่มีหินงอก หินย้อยที่สวยงาม โถงถ้ำหลัก 1 โถง โถงถ้ำย่อย 3 โถง
พบประติมากรรมถ้ำที่สวยงาม เช่น หินย้อยย้อนแสง หินย้อย หินน้ำไหล เสาหิน ทำนบหินปูน ไข่มุกถ้ำ
และม่านหินย้อย เป็นต้น (รูปที่ 3.27) แสงไฟที่ส่องกระทบกับหินงอก หินย้อย จะเกิดประกายแวววาวราว
กับประกายของแก้ว จึงเรียกว่า “ถ้ำแก้ว” การสำรวจและจัดทำแผนผังถ้ำเทียบได้กับระดับ 4 (grade 4)
ตามมาตรฐานการสำรวจของสมาคมวิจัยถ้ำของประเทศอังกฤษ (British Cave Research Association:
BCRA) คณะสำรวจได้กำหนดให้อยู่ระหว่าง ชั้น C (class C) ความยาวโถงหลัก 100.836 เมตร ความยาว
โถงย่อย 57.309 เมตร ความยาวรวม 158.145 เมตร (รูปที่ 3.28)
ลักษณะธรณีวิทยา : ภูมิประเทศคาสต์รูปกรวยและคาสต์รูปหอคอย แนวการวางตัวใน
ทิศเหนือ-ใต้ บริเวณนี้จัดอยู่ในหมวดหินอุ้มลูก กลุ่มหินราชบุรี ประกอบด้วย หินปูน หินปูนเนื้อโดโลไมต์
สีเทาปานกลางถึงเทา ชั้นหนาถึงไม่แสดงชั้น เนื้อหินปูนขนาดละเอียดมีซากดึกดำบรรพ์ปนอยู่น้อยกว่า
ร้อยละ 10 (Dunham, 1962) มีก้อนเชิร์ตลักษณะเป็นเลนส์วางตัวตามแนวการวางตัวของชั้นหิน
พบซากดึกดำบรรพ์พวกไครนอยด์สเต็ม หอยฝาเดียว แบรคิโอพอด หอยสองฝา ปะการัง และฟองน้ำ
มีอายุอยู่ในยุคเพอร์เมียน หรือประมาณ 299-252 ล้านปีมาแล้ว
การเกิดถ้ำแก้ว : เป็นถ้ำที่เกิดจากการละลายของหินปูน ในอดีตยุคเพอร์เมียนเมื่อประมาณ
299 – 252 ล้านปีก่อน บริเวณถ้ำเคยเป็นทะเลมาก่อนมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในทะเลเป็นจำนวนมาก เช่น
ฟูซูลินิด ปะการัง ฟองน้ำ ไครนอยด์ หอยฝาเดียว และหอยสองฝา เป็นต้น เมื่อเวลาผ่านไปตะกอน
คาร์บอเนตที่สะสมอยู่ในทะเลผ่านกระบวนทางธรณีวิทยาแข็งตัวกลายเป็นหินปูน พร้อมทั้งสิ่งมีชีวิตที่เคย
อาศัยอยู่ในทะเลก็กลายเป็นซากดึกดำบรรพ์ ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงของแผ่นเปลือกโลกทำให้ชั้นหิน
ถูกยกตัวขึ้นกลายเป็นภูเขาหินปูน พบโครงสร้างธรณีวิทยา เช่น ชั้นหินคดโค้ง รอยแตก และรอยเลื่อนภายใน
ชั้นหินจำนวนมาก เป็นต้น น้ำฝนที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ หรือที่เรียกว่า กรดคาร์บอนิค ซึมไปตามรอยแตก
และรอยเลื่อน ทำให้รอยแตกและรอยเลื่อนขยายใหญ่ขึ้น กลายเป็นโพรงและโถงถ้ำขนาดใหญ่ภายในหินปูน
ในเวลาต่อมาน้ำฝนที่รวมตัวกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ไหลซึมเข้าไปตาม
รอยแตกและรอยเลื่อน ทำให้รอยแตกและรอยเลื่อนขยายขนาดใหญ่ขึ้น น้ำที่ซึมมาตามรอยแตก
และรอยเลื่อนละลายหินปูนไหลเข้ามาในโถงถ้ำแห้งเกิดประติมากรรมถ้ำจำนวนมาก เช่น หินย้อยย้อนแสง
หินย้อย ม่านหินย้อย เสาหิน และหินน้ำไหล เป็นต้น น้ำทะเลในอดีตที่เพิ่มระดับสูงขึ้นกัดเซาะเกาะแผ่เป็น
บริเวณกว้าง ร่องรอยที่บันทึกตามเกาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาเป็นหลักฐานการเพิ่มขึ้นของ
ั
ระดับน้ำทะเลโบราณ ร่องรอยน้ำทะเลกัดเซาะตามแนวรอยแตก รอยเลื่อน จนเกิดโพรงและเชื่อมกบโถงถ้ำที่
อยู่ภายใน และกระแสคลื่นกระแทกบริเวณเพดานถ้ำแก้วจนเกิดกุมภลักษณ์หัวกลับ (รูปที่ 3.27 (ก))
หลังจากนั้นระดับของน้ำทะเลค่อยๆ ลดลงดังปรากฎในปัจจุบัน