Page 97 - 50 คำถาม เกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการ
P. 97
93
ค าชี้ขาดเกี่ยวกับสัญญาอนุญาโตตุลาการ
38. ค ำชี้ขำดข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 15/2560
ประเด็นข้อพิพำท : ผู้เรียกร้องมีอ ำนำจยื่นข้อพิพำทให้คณะอนุญำโตตุลำกำรวินิจฉัยชี้ขำดหรือไม่
ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่ำ บริษัทผู้เรียกร้องถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อด าเนินงานโครงการก่อสร้างโรงงานผลิต
ไฟฟ้าน าพลังไฟฟ้าไปขายให้แก่ผู้คัดค้าน ผู้เรียกร้องและผู้คัดค้านได้ท าสัญญางานบริการวิศวกรรมที่ปรึกษาโครงการ
โรงไฟฟ้า ตามสัญญาพิพาทได้ก าหนดไว้ในข้อ ๑๐ “ถ้าเกิดข้อพิพาทหรือความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับสัญญาหรือ
ข้อผูกพันที่ก าหนดไว้ในสัญญาฉบับนี้ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม ให้คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบเป็นลายลักษณ์
อักษรโดยเร็วที่สุดที่จะท าได้ ถึงข้อพิพาทหรือความคิดเห็นที่ขัดแย้ง โดยระบุสภาพและประเด็นที่เป็นข้อขัดแย้งนั้น ๆ และ
ให้คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายหาข้อยุติข้อพิพาท หรือความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันโดยเร็วเท่าที่จะท าได้ ถ้าคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย
ไม่สามารถหาข้อยุติข้อพิพาท หรือความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันได้ ให้ส่งเรื่องให้คณะอนุญาโตตุลาการเป็นผู้ตัดสิน" ผู้เรียกร้อง
แถลงว่า ผู้เรียกร้องได้มีหนังสือแจ้งเริ่มกระบวนการอนุญาโตตุลาการกับผู้คัดค้านแล้ว แจ้งถึงผู้คัดค้านให้เข้าใจปัญหาว่า
เกิดจากผู้คัดค้านท าผิดสัญญา ไม่ควรมีสิทธิปรับค่าจ าหน่ายไฟฟ้า ต่อมาผู้คัดค้านได้มีหนังสือถึงผู้เรียกร้อง ชัดเจนว่า
คู่พิพาททั้งสองฝ่ายทราบว่ามีข้อพิพาทเกิดขึ้น แต่ผู้คัดค้านโต้แย้งว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช่หนังสือที่แจ้งให้เริ่มกระบวนการ
อนุญาโตตุลาการ แต่เป็นข้อโต้แย้งในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า เป็นการแจ้งข้อพิพาท ข้อขัดแย้งส าหรับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
ขอลดค่าปรับ และผู้คัดค้านได้ตอบว่า ส าหรับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ลดค่าปรับไม่ได้ ถ้าประสงค์จะมีข้อพิพาท หรือคิดว่า
ได้รับความเสียหายจากสัญญาวิศวกรรมที่ปรึกษาให้ไปด าเนินการภายใต้สัญญา หนังสือแจ้งเริ่มการอนุญาโตตุลาการ
ตามสัญญา ข้อ ๑๐
ค ำวินิจฉัยชี้ขำด
ส าหรับประเด็นข้อพิพาทแรกที่คณะอนุญาโตตุลาการจะได้วินิจฉัยคือ “ผู้เรียกร้องมีอ านาจยื่น
ข้อพิพาทให้คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดหรือไม่” ในประเด็นนี้ ตามสัญญาพิพาทได้ก าหนดไว้ในข้อ ๑๐
เป็นขั้นตอนที่ให้คู่สัญญาหาข้อยุติข้อพิพาท หรือความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันโดยเร็วเท่าที่จะท าได้ก่อน อันเป็นเงื่อนไขที่
คู่สัญญาจะต้องปฏิบัติตาม จึงจะยื่นข้อที่เห็นต่างกันนั้นให้คณะอนุญาโตตุลาการตัดสินได้ แต่ที่ผู้เรียกร้องอ้างว่าได้แจ้งให้
ผู้คัดค้านทราบถึงข้อพิพาทหรือความคิดเห็นที่ขัดแย้งตามที่ก าหนดไว้ในสัญญาพิพาทข้อ ๑๐ แล้วนั้น เป็นหนังสือ
ของผู้เรียกร้องที่มีถึงผู้คัดค้าน เรื่อง ขอให้พิจารณาค่าปรับตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และอ้างถึงสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง
ผู้เรียกร้องกับผู้คัดค้าน แต่มิได้อ้างถึงสัญญาจ้างงานบริการวิศวกรรมที่ปรึกษาอันเป็นสัญญาพิพาทแต่อย่างใด
เมื่อผู้เรียกร้องมิได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรถึงข้อพิพาทหรือความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับสัญญาพิพาทนี้
ให้ผู้คัดค้านทราบโดยตรง อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการให้ครบถ้วนเสียก่อนยื่นค าเสนอ
ข้อพิพาท ผู้เรียกร้องจึงไม่มีอ านาจยื่นค าเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการเพื่อพิจารณาชี้ขาดได้ ส่วนปัญหาตาม
ประเด็นพิพาทข้อที่ ๒ ที่ว่า “ผู้คัดค้านได้ปฏิบัติผิดสัญญาพิพาทตามที่ผู้เรียกร้องกล่าวอ้างหรือไม่” และปัญหาตาม
ประเด็นพิพาทข้อที่ ๓ “ผู้เรียกร้องมีสิทธิเรียกค่าเสียหายเพียงไร” ล้วนเป็นปัญหาที่จะน าไปวินิจฉัยถึงสิทธิเรียกร้อง
ตามค าเสนอข้อพิพาท เมื่อผู้เรียกร้องไม่มีอ านาจยื่นค าเสนอข้อพิพาทนี้ ปัญหาตามประเด็นพิพาททั้งสองข้อดังกล่าว
จึงไม่จ าต้องวินิจฉัย เพราะไม่ท าให้ผลค าวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าวเปลี่ยนแปลง