Page 15 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 15

7





                  (๓) หำกค�ำร้องเป็นไปโดยถูกต้องครบถ้วน ศำลที่รับฟ้องอำจรอกำรพิจำรณำไว้ชั่วครำว และจัดท�ำ
                                                                     ๘
            ควำมเห็นส่งไปให้ศำลที่คู่ควำมร้องว่ำคดีนั้นอยู่ในเขตอ�ำนำจศำลโดยเร็ว
                  อนึ่ง ในกรณีที่ศำลพิจำรณำคดีต่อไป โดยไม่รอกำรพิจำรณำไว้ชั่วครำว ศำลจะต้องรอผลค�ำวินิจฉัย
            ชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำลก่อนที่จะมีค�ำพิพำกษำ

                  (๔) ในกรณีท่คู่ควำมขอถอนค�ำร้อง ต้องกระท�ำก่อนมีกำรอ่ำนค�ำวินิจฉัยหรือค�ำส่งของคณะกรรมกำร
                                                                                ั
                            ี
            และให้ด�ำเนินกำร ดังนี้ 9
                  ก. กรณีท่ศำลยังไม่ได้ส่งเร่องไปยังคณะกรรมกำร ให้ย่นต่อศำลและให้เป็นดุลพินิจของศำลในกำร
                                       ื
                          ี
                                                             ื
            พิจำรณำสั่งค�ำขอถอนค�ำร้อง
                  เมื่อศำลมีค�ำสั่งอนุญำตให้ถอนค�ำร้องแล้ว ห้ำมมิให้คู่ควำมยื่นค�ำร้องในเรื่องนั้นอีก
                  ข. หำกศำลได้ส่งเร่องไปยังคณะกรรมกำร และผู้ร้องย่นค�ำขอถอนค�ำร้องต่อศำล ให้ศำลรีบส่งค�ำขอนน
                                                                                              ั
                                                           ื
                                                                                              ้
                                ื
            ไปยังเลขำนุกำรคณะกรรมกำรและให้คณะกรรมกำรเป็นผู้พิจำรณำสั่ง
                  ๕.๑.๑.๒ กรณีที่คู่ควำมยื่นค�ำร้องโต้แย้งเขตอ�ำนำจศำลตำมมำตรำ ๑๒ วรรคหนึ่ง ๑0
                                                                 ี
                                                                                     ั
                                    ึ
                                                 ื
                  ในกรณีมีกำรฟ้องคดีซ่งมีข้อเท็จจริงเร่องเดียวกันต่อศำลท่มีเขตอ�ำนำจแตกต่ำงกันต้งแต่สองศำล
            ขึ้นไป เมื่อคู่ควำมยื่นค�ำร้องโต้แย้งเขตอ�ำนำจศำล ให้ศำลด�ำเนินกำร ดังนี้
                  (๑) ตรวจค�ำร้องว่ำเป็นไปโดยถูกต้องและมีรำยกำรครบถ้วนหรือไม่
                  (๒) ส่งส�ำเนำค�ำร้องให้คู่ควำมอีกฝ่ำยหนึ่งหรือบุคคลผู้มีส่วนได้เสียท�ำค�ำชี้แจงภำยใน ๑๕ วันนับแต่
                                                                                       ๑๑
            วันได้รับส�ำเนำค�ำร้อง ทั้งนี้ ค�ำชี้แจงดังกล่ำวจะต้องมีรำยกำรในสำระส�ำคัญเช่นเดียวกับค�ำร้อง
                  (๓) หำกค�ำร้องเป็นไปโดยถูกต้องครบถ้วน ศำลที่รับฟ้องอำจรอกำรพิจำรณำไว้ชั่วครำว ทั้งนี้ โดยที่
                 ื
            กำรย่นค�ำร้องโต้แย้งเขตอ�ำนำจศำลตำมมำตรำ ๑๒ คู่ควำมอำจย่นค�ำร้องโต้แย้งเขตอ�ำนำจศำลต่อศำลใด
                                                                ื
                                                     ั
            ศำลหน่งท่รับฟ้องไว้ และกำรโต้แย้งเขตอ�ำนำจน้นอำจเป็นกำรโต้แย้งเขตอ�ำนำจศำลเพียงศำลเดียว
                     ี
                   ึ
                                                                                      ๑๒
            หรือมำกกว่ำหนึ่งศำลก็ได้ ดังนั้น ในกำรจัดท�ำควำมเห็นของศำลจึงอำจแยกพิจำรณำเป็นดังนี้





                  ๘   มำตรำ ๑0 วรรคหนง แก้ไขเพ่มเติมโดยพระรำชบัญญติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยชขำดอ�ำนำจหน้ำทระหว่ำงศำล
                                                                          ี
                                                                                       ่
                                                           ั
                                                                                       ี
                                                                          ้
                                   ึ
                                          ิ
                                   ่
            (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔
                  9   ข้อบังคับคณะกรรมกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำล ว่ำด้วยวิธีกำรเสนอเร่อง กำรพิจำรณำและวินิจฉัย
                                          ี
                                                      ี
                                                                             ื
            พ.ศ. ๒๕๔๔ ข้อ ๑
                  ๑0  กำรโต้แย้งเขตอำนำจศำลตำมมำตรำ ๑๒ ทงโจทก์และจำเลยสำมำรถยนคำร้องโต้แย้งเขตอำนำจศำลได้
                                                                           �
                                                              �
                                                                        ื
                                                                        ่
                                 �
                                                     ้
                                                     ั
                                                                                       �
                  ื
            โดยจะย่นคำร้องท่ศำลท่ตนฟ้องคดีหรือศำลทตนถูกฟ้องคดีเป็นจำเลยก็ได้ แต่ไม่สำมำรถย่นค�ำร้องโต้แย้งเขตอ�ำนำจศำล
                                                                           ื
                                                         �
                             ี
                                            ่
                                            ี
                    �
                         ี
            ที่ตนยื่นฟ้อง
                  ๑๑  ข้อบังคับคณะกรรมกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำล ว่ำด้วยวิธีกำรเสนอเร่อง กำรพิจำรณำและ
                                            ี
                                                         ี
                                                                                 ื
            วินิจฉัย พ.ศ. ๒๕๔๔ ข้อ ๑๗
                  ๑๒  ข้อบังคับคณะกรรมกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำล ว่ำด้วยวิธีกำรเสนอเร่อง กำรพิจำรณำและ
                                                         ี
                                                                                 ื
                                            ี
            วินิจฉัย พ.ศ. ๒๕๔๔ ข้อ ๑๔
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20