Page 38 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 38
30
ื
ี
ี
(๓) ถ้ำศำลท่ส่งควำมเห็นและศำลท่รับควำมเห็นมีควำมเห็นแตกต่ำงกันในเร่องเขตอ�ำนำจศำล
ในคดีนั้น ให้ศำลที่ส่งควำมเห็นส่งเรื่องไปให้คณะกรรมกำรพิจำรณำวินิจฉัยชี้ขำดให้เสร็จภำยในสำมสิบวัน
นับแต่วันท่คณะกรรมกำรมีมติรับเร่อง แต่ถ้ำมีเหตุจ�ำเป็น ให้คณะกรรมกำรลงมติให้ขยำยเวลำออกไปได้ไม่เกน
ื
ิ
ี
สำมสิบวัน โดยให้บันทึกเหตุแห่งควำมจ�ำเป็นนั้นไว้ด้วย ๒
ี
ี
ค�ำส่งของศำลตำมวรรคหน่ง (๑) และ (๒) และค�ำวินิจฉัยของคณะกรรมกำรท่เก่ยวกับเขตอ�ำนำจศำล
ั
ึ
ึ
้
ตำมวรรคหนง (๓) ให้เป็นทสด และมให้ศำลทอย่ในลำดบสงขนไปของศำลตำมวรรคหนงยกเรอง
่
่
ั
�
ิ
ู
ู
ี
่
ี
่
่
ึ
ื
ึ
ุ
เขตอ�ำนำจศำลขึ้นพิจำรณำอีก
ควำมในมำตรำนี้ให้ใช้บังคับกับกรณีที่ศำลเห็นเองก่อนมีค�ำพิพำกษำโดยอนุโลม
ี
ี
ี
ั
มำตรำ 11 ในกรณีท่คณะกรรมกำรได้วินิจฉัยช้ขำดว่ำคดีอยู่ในเขตอ�ำนำจของศำลท่รับฟ้อง ให้ศำลน้น
ี
ด�ำเนินกระบวนพิจำรณำต่อไป แต่ถ้ำวินิจฉัยช้ขำดว่ำคดีอยู่ในเขตอ�ำนำจของอีกศำลหน่ง ให้ศำลท ี ่
ึ
ี
ื
่
ี
้
้
็
่
ี
่
ี
ู
ั
�
ี
ั
่
�
ื
่
ั
ั
รบฟ้องสงโอนคดหรอสงจำหน่ำยคดเพอให้ค่ควำมไปฟ้องศำลทมเขตอำนำจ ทงน ตำมทศำลเหนสมควร
ี
โดยค�ำนึงถึงประโยชน์แห่งควำมยุติธรรม
มำตรำ 1๒ ในกรณีที่มีกำรน�ำคดีซึ่งมีข้อเท็จจริงเรื่องเดียวกันฟ้องต่อศำลที่มีเขตอ�ำนำจแตกต่ำงกัน
ั
ึ
ึ
ต้งแต่สองศำลข้นไป ถ้ำคู่ควำมหรือศำลเห็นว่ำคดีน้นไม่อยู่ในเขตอ�ำนำจของศำลใดศำลหน่งท่รับฟ้อง
ี
ั
ให้น�ำควำมในมำตรำ ๑0 และมำตรำ ๑๑ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
ในกรณีที่มีกำรฟ้องคดีต่อศำลใด แต่ศำลนั้นไม่รับฟ้องเพรำะเหตุว่ำคดีดังกล่ำวอยู่ในเขตอ�ำนำจของ
อีกศำลหนึ่ง เมื่อมีกำรฟ้องคดีต่ออีกศำลหนึ่งแล้วหำกศำลดังกล่ำวเห็นว่ำ คดีนั้น ไม่อยู่ในเขตอ�ำนำจเช่นกัน
ั
ึ
ให้ศำลน้นส่งเร่องไปให้คณะกรรมกำรพิจำรณำวินิจฉัย โดยให้น�ำควำมในมำตรำ ๑0 วรรคหน่ง (๓) และ
ื
มำตรำ ๑๑ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
้
มำตรำ 1๓ ในกำรโอนคดีตำมค�ำสงศำลตำมพระรำชบัญญตินให้ถอว่ำบรรดำกระบวนพจำรณำทได ้
่
ี
ื
ิ
ี
่
ั
ั
ี
ี
ั
ด�ำเนินกำรไปแล้วในศำลท่มีค�ำส่งโอนคดีเป็นกระบวนพิจำรณำของศำลท่รับโอนคดีด้วย เว้นแต่ศำลท ่ ี
รับโอนคดีจะมีค�ำสั่งเป็นอย่ำงอื่นเพื่อประโยชน์แห่งควำมยุติธรรม
้
ี
ี
ี
ื
ื
่
เม่อมเหตุตองฟ้องคดใดใหมต่อศำลท่มเขตอ�ำนำจอันเน่องจำกมีกำรด�ำเนินกำรตำมพระรำชบัญญติน ้ ี
ั
ี
ถ้ำอำยุควำมหรือก�ำหนดเวลำในกำรฟ้องคดีครบก�ำหนดไปแล้ว ในระหว่ำงกำรพิจำรณำของศำลหรือ
ั
ี
ของคณะกรรมกำร แล้วแต่กรณี หรือจะครบก�ำหนดก่อนหกสิบวันนับแต่วันท่มีค�ำส่งของศำลหรือของ
คณะกรรมกำร แล้วแต่กรณี ให้ขยำยอำยุควำมหรือก�ำหนดเวลำกำรฟ้องคดีออกไปจนถึงหกสิบวันนับแต่วันท ่ ี
มีค�ำสั่งของศำลหรือของคณะกรรมกำร แล้วแต่กรณี
ั
ี
มำตรำ 1๔ ถ้ำมีค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งท่ถึงท่สุดระหว่ำงศำลขัดแย้งกันในคดีท่มีข้อเท็จจริงเป็น
ี
ี
ื
เร่องเดียวกัน จนเป็นเหตุให้คู่ควำมไม่ได้รับกำรเยียวยำควำมเสียหำยหรือไม่ได้รับควำมเป็นธรรมหรือมีควำม
๒ มำตรำ ๑0 วรรคหน่ง แก้ไขเพ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำล
ึ
ี
ิ
ี
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔