Page 40 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 40

32




                          ๕
                มำตรำ 1๙  ให้คณะกรรมกำร เลขำนุกำรคณะกรรมกำร และผู้ช่วยเลขำนุกำรคณะกรรมกำร
           ได้รับประโยชน์ตอบแทนตำมที่ก�ำหนดในพระรำชกฤษฎีกำ
                มำตรำ ๒๐ เม่อศำลปกครองได้เปิดท�ำกำรแล้ว ให้ด�ำเนินกำรคัดเลือกกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิตำม
                            ื
           มำตรำ ๕ (๒) ภำยในหกสิบวันนับแต่วันเปิดท�ำกำรศำลปกครอง

                                                                                       ี
                ภำยในส่ปีนับแต่พระรำชบัญญัติน้ใช้บังคับให้ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดเป็นผู้มีสิทธิท่จะได้รับ
                                            ี
                       ี
           กำรคัดเลือกเป็นกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิตำมมำตรำ ๕ (๒) ได้
                มำตรำ ๒1 ให้นำยกรัฐมนตรีรักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้


           ผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำร
                 ชวน หลีกภัย
                นำยกรัฐมนตรี







                                                                         ี
                หมำยเหตุ:- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับน้ คือ โดยท่มำตรำ ๒๔๘ รัฐธรรมนูญ
                                                                 ี
                                                           ี
                                                   ื
           แห่งรำชอำณำจักรไทยบัญญัติให้มีคณะกรรมกำรเพ่อท�ำหน้ำท่พิจำรณำวินิจฉัยปัญหำเก่ยวกับอ�ำนำจหน้ำท ี ่
                                                                               ี
           ระหว่ำงศำลยุติธรรม ศำลปกครอง ศำลทหำร หรือศำลอื่น โดยให้ประกอบด้วยประธำนศำลฎีกำ ประธำน
                                                                  ี
           ศำลปกครองสูงสุด ประธำนศำลอ่นและกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิตำมท่กฎหมำยบัญญัติและให้หลักเกณฑ์
                                      ื
           กำรเสนอปัญหำดังกล่ำวเป็นไปตำมที่กฎหมำยบัญญัติ จึงจ�ำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้

                พระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ ๖
                มำตรำ ๒ พระรำชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันที่ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
                                      ี
                                                             ื
                                                          ี
                                                                                ี
                มำตรำ ๗ พระรำชบัญญัติน้ให้ใช้บังคับกับบรรดำคดีท่ได้ย่นค�ำร้องไว้แล้วก่อนวันท่พระรำชบัญญัติน  ี ้
                                                        ื
                                                    ่
                                                    ี
                                                                         ี
                                                                         ่
                ั
              ั
                                                                                       ี
                                                                                             ั
                                                                                          ั
                           ี
                                                 ่
                                                 ื
           ใช้บงคบ เว้นแต่คดของศำลปกครองหรือศำลอนทได้ย่นค�ำฟ้องไว้ก่อนวันทพระรำชบัญญัติน้ใช้บงคบ
                                                                ี
                                  ื
                                                                                ี
           แต่ยังไม่ได้ย่นค�ำร้องต่อศำลเพ่อโต้แย้งเขตอ�ำนำจศำลตำมกฎหมำยท่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันท่พระรำชบัญญัติน  ้ ี
                    ื
           ใช้บังคับ ให้ยื่นค�ำร้องภำยในก�ำหนดระยะเวลำหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
                                                                          ี
                                                            ู
                                                              ุ
                                      ี
                มำตรำ ๘ ให้ประธำนศำลฎกำ ประธำนศำลปกครองสงสด และรัฐมนตรว่ำกำรกระทรวงกลำโหม
           รักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
                ๕  มำตรำ ๑9 แก้ไขเพ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำล (ฉบับท่ ๒)
                                 ิ
                                                                                            ี
                                                                 ี
                                                                             ี
           พ.ศ. ๒๕๖๔
                ๖  รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๘/ตอนที่ ๑๑ ก/หน้ำ ๑๓/๑0 กุมภำพันธ์ ๒๕๖๔
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45