Page 96 - รายงานประจำปี 2562
P. 96
ั
ำ
ึ
ู
ำ
ดาเนินกิจการทางปกครอง ซ่งพระราชบัญญัติจัดต้ง เห็นเองในระหว่างพิจารณาว่า คดีไม่อย่ในอานาจพิจารณา
ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ พิพากษาของศาลตน แต่อยู่ในอำานาจพิจารณาพิพากษา
ำ
ำ
มาตรา ๙ (๓) กาหนดให้ศาลปกครองมีอานาจพิจารณาพิพากษา ของศาลปกครอง
คดีพิพาทเก่ยวกับการกระทาละเมิดหรือความรับผิด โดยคณะกรรมการฯ มีคาวินิจฉัยท่ ๒๕ - ๒๖/๒๕๖๒
ี
ำ
ี
ำ
ี
อย่างอ่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าท่ของรัฐ ว่า เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำาเลย เนื่องจากจำาเลย
ื
ั
ำ
อันเกิดจากการใช้อานาจตามกฎหมาย หรือจากกฎคาส่ง ปฏิบัติผิดเง่อนไขตามคาขอเป็นเหตุให้จาเลยเป็นผ้ไม่ม ี
ำ
ื
ู
ำ
ำ
ทางปกครอง หรือคำาสั่งอื่น หรือจากการละเลยต่อหน้าที่ สทธทจะไดรบเงนคนเปนกรณีทรฐฟองคดโดยใชสทธ ิ
้
ิ
ิ
ี
ิ
ั
ื
ี
็
่
่
ี
ิ
ั
้
้
ี
ำ
ตามท่กฎหมายกาหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าท ี ่ เรียกร้องเอาแก่จาเลยในฐานะเอกชนคนหน่ง ซ่งไม่เข้า
ำ
ึ
ึ
ู
ี
ื
ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร เม่อในคดีน้ผ้ฟ้องคดีฟ้องว่า ลักษณะคดีพิพาทซ่งอย่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของ
ึ
ู
ำ
ผ้ฟ้องคดีย่นใช้สิทธิขอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบาย ศาลปกครองตามมาตรา ๙ วรรคหน่ง แห่งพระราชบัญญัต ิ
ู
ื
ึ
์
้
ู
้
ู
่
ั
่
ั
รฐบาลในโครงการรถยนตใหมคนแรกตอผถกฟองคด ี จดตงศาลปกครองและวธพจารณาคดปกครอง พ.ศ.
ั
ี
ี
ิ
ิ
้
ั
ำ
ี
ำ
ึ
ซ่งมีอานาจหน้าท่ตรวจสอบคาขอและเอกสารประกอบ ๒๕๔๒ กรณีจึงเป็นเร่องท่โจทก์ซ่งเป็นหน่วยงานทาง
ึ
ื
ี
ิ
ี
ิ
ิ
่
เพอดาเนนการเบกจายใหแกผมสทธตามแนวทางการ ปกครองต้องใช้สิทธิฟ้องเรียกเงินคืนจากจาเลยต่อ
ำ
ื
่
ู
้
ิ
่
้
ำ
ตรวจสอบการจ่ายเงินตามมาตรการรถยนต์คันแรก ศาลยุติธรรม ซ่งเป็นศาลท่มีอานาจพิจารณาพิพากษาคด ี
ี
ึ
ำ
ู
ี
ของกระทรวงการคลังแล้วเจ้าหน้าท่ของผ้ถูกฟ้องคด ี ท้งปวงท่ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้อย่ในอานาจของศาลอ่น
ู
ำ
ี
ื
ั
ึ
ี
ซ่งเป็นเจ้าหน้าท่ของรัฐแจ้งว่าผ้ฟ้องคดีขาดคุณสมบัต ิ คดีจึงอยู่ในอำานาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
ู
และไม่มีสิทธิรับเงินตามมาตรการดังกล่าว กรณีจึงเป็น
ื
ี
ี
คดีพิพาทเก่ยวกับความรับผิดอย่างอ่นของหน่วยงาน เม่อพิจารณาข้อเท็จจริงในคดีน้จะเห็นได้ว่าเป็น
ื
ุ
ี
ี
ี
ทางปกครองหรือเจ้าหน้าท่ของรัฐอันเกิดจากการใช ้ คดีท่มีข้อพิพาทแตกต่างไปจากกล่มคดีท่คณะกรรมการ
ำ
่
ื
ี
ำ
ำ
อานาจตามกฎหมายท่อย่ในอานาจพิจารณาพิพากษา ได้วางแนวคาวินิจฉัยไว้ในกรณีแรกอย่างชัดเจน เนองจาก
ู
ี
ี
ของศาลปกครอง เป็นกรณีท่กรมสรรพสามิตฟ้องเรียกเงินท่เอกชนได้รับ
ไปตามคำาขอฯ ที่ได้ยื่นไว้คืน เนื่องจากขณะที่ยื่นคำาขอฯ
ี
ี
กรณีท่สอง คดีท่กรมสรรพสำมิตฟ้องเรียก เอกชนน้นมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ท่จะได้รับ
ั
ี
เงินคืนจำกเอกชนผ้รับเงินช่วยเหลือตำมนโยบำย เงนคน และกระทรวงการคลงโดยกรมบญชกลางไดอนุมต ิ
ู
ี
้
ั
ิ
ั
ื
ั
ื
รัฐบำลในโครงกำรรถยนต์ใหม่คันแรกเน่องจำกปฏิบัต ิ เงินคืนไปแล้ว ต่อมาเอกชนผ้น้นมิได้ปฏิบัติตามเง่อนไข
ู
ั
ื
ผิดเงื่อนไข ที่กำาหนดว่า ผู้ซื้อรถยนต์จะต้องครอบครองรถยนต์ที่ซื้อ
ี
ื
ข้อเท็จจริงกรณีนี้เป็นเร่องท่กรมสรรพสามิตฟ้อง เป็นระยะเวลาอย่างน้อย ๕ ปี จึงถือได้ว่าเอกชนดังกล่าว
ู
เรียกเงินคืนจากเอกชนผ้ท่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของ ได้รับเงินคืนตามโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกไปโดยไม่ม ี
ี
ี
ึ
้
ึ
กระทรวงการคลังซ่งกรมบัญชีกลางได้อนุมัติเงินคืนให เหตุท่จะยึดถือไว้โดยชอบ การท่กรมสรรพสามิตซ่งเป็น
ี
ิ
ี
่
่
่
ื
่
ำ
่
ตามคาขอฯ ทยนตอกรมสรรพสามต แตภายหลงจากท หน่วยงานทางราชการผู้รับผิดชอบ แม้จะเป็นหน่วยงาน
ั
ี
ึ
์
ได้รับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาลในโครงการรถยนต ของรัฐซ่งมีสถานะเป็นหน่วยงานทางปกครอง แต่การ
ใหม่คันแรกไปแล้วเอกชนดังกล่าวปฏิบัติผิดเง่อนไขโดย เรียกเงินคืนในกรณีนี้ กรมสรรพสามิตมิได้ใช้อำานาจทาง
ื
ื
ู
ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ท่ว่า ผ้ซ้อจะต้องครอบครองรถยนต ปกครองเหนือค่กรณีซ่งเป็นเอกชนแต่อย่างใด คงเป็น
์
ู
ี
ึ
คันที่ซื้อเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๕ ปี ซึ่งคดีดังกล่าวได้เข้าสู่ เพียงการใช้สิทธิเรียกร้องเพ่อติดตามทรัพย์สินจากบุคคล
ื
การพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยช้ขาดอานาจ ทไมมสทธยดถอไวเชนเดยวกบเอกชนคนหนงเทานน
่
่
ึ
ี
ำ
ี
่
้
ื
ั
้
ี
ั
ี
่
่
ึ
ิ
ิ
หน้าท่ระหว่างศาลในปี ๒๕๖๒ โดยในเร่องน้เป็น การฟ้องเรียกเงินคืนในกรณีน้จึงมิเข้าหลักเกณฑ์ของ
ี
ื
ี
ี
ื
ี
กรณีท่ศาลยุติธรรมซ่งเป็นศาลท่รับฟ้องคดีดังกล่าว คดีพิพาทเก่ยวกับความรับผิดอย่างอ่นของหน่วยงาน
ี
ึ
ี
90 บทความที่น่าสนใจ