Page 206 - สนง.ศาลภาค 2 กฎหมาย ระเบียบ และบทความที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เล่ม 2
P. 206
23
4.4 ด้านนโยบายและกลไกการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ
1) พัฒนาผู้ทําหน้าที่สื่อสารล่ามภาษาต่างชาติ ในระบบสายด่วนเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับแจ้งเหตุ/เบาะแส และการให้บริการแก่ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่เป็น
คนต่างด้าว
2) พัฒนาระบบฐานข้อมูลการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทยอย่างต่อเนื่อง
4.5 ด้านความร่วมมือกับทุกภาคส่วน และความร่วมมือระหว่างประเทศ
1) สร้างความร่วมมือด้านวิชาการในกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรม
ข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร
2) ประชุมเชิงปฏิบัติการต่อเนื่องเพื่อกําหนดมาตรฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติร่วมกัน
ระหว่างประเทศอนุภาคลุ่มน้ําโขงในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
3) ขยายความร่วมมือกับประเทศที่นําเข้าและส่งออกแรงงานผ่านช่องทางที่เป็นทางการ
โดยการจัดทําบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลบังกลาเทศ
4) จัดงานรณรงค์เพื่อสร้างความตื่นตัวเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ในระดับประเทศ ภายใต้
ชื่อ “United against Trafficking in Persons”
5) จัดประชุมระดับประเทศว่าด้วยอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ
ที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร และพิธีสารด้านการค้ามนุษย์
5. บทสรุปและข้อเสนอแนะ
5.1 บทสรุป
ประเทศไทยมีพรหมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านประมาณ 5,326 กิโลเมตร จึงมีช่องทาง
ธรรมชาติรอบด้านในการลักลอบเข้าเมืองเพื่อแสวงหาโอกาสในชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยปัจจัยต่างๆ ประเทศไทย
จึงกําหนดให้ปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ เพราะถือว่าการค้ามนุษย์เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
อย่างร้ายแรง และได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551
เพื่อบังคับกับการค้ามนุษย์เป็นการเฉพาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558
ซึ่งต้องระมัดระวังการเดินทางเข้าออกของคนไทยและคนต่างด้าวที่อาจถูกแสวงหาผลประโยชน์จาก
ความต้องการโยกย้ายถิ่นฐานได้
การค้ามนุษย์อาจจะหมดไปได้ยาก ซึ่งถ้ารู้จักกฎง่ายๆ ของ Demand Supply ถ้ายังมีความต้องการ
ก็จะยังมีการจัดหา จัดซื้อ ขาย จําหน่าย อย่างนั้นต่อไปไม่สิ้นสุด การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ได้อย่างยั่งยืน