Page 1096 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1096
๑๐๘๔
ิ
ในกรณีศาลเห็นว่าจ าเลยไม่สมควรใช้วิธีการตามวรรคหนึ่ง ศาลจะส่งตัวจ าเลยไปยังสถานพนิจหรือ
สถานที่อนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและตามที่ศาลเห็นสมควรที่ยินยอมรับตัวจ าเลยไว้ดูแลชั่วคราวหรือจะให้ใช้
ื่
วิธีการส าหรับเด็กและเยาวชนไปพลางก่อนก็ได้ แต่ต้องไม่เกินกว่าจ าเลยนั้นมีอายุครบยี่สิบสี่ปีบริบูรณ์
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสั่งตามวรรคหนึ่ง ตลอดจนวิธีการประเมินสภาพปัญหาการจัดท า
ื้
แผนแก้ไขบ าบัดฟนฟ การเตรียมความพร้อมเพอมอบตัวจ าเลยให้บิดา มารดา ผู้ปกครองหรือบุคคลซึ่งจ าเลย
ื่
ู
อาศัยอยู่ด้วย ให้เป็นไปตามข้อบังคับของประธานศาลฎีกา
มาตรา ๑๓๓ เมื่อจ าเลยได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขและภายในระยะเวลาที่ศาลก าหนดตามมาตรา ๑๓๒
แล้ว ให้ศาลสั่งยุติคดีโดยไม่ต้องมีค าพพากษาเกี่ยวกับการกระท าความผิดของจ าเลย เว้นแต่ค าสั่งเกี่ยวกับของ
ิ
กลาง และให้ถือว่าสิทธิน าคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับ
ถ้าจ าเลยผิดเงื่อนไขตามมาตรา ๑๓๒ ก็ให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาพิพากษาต่อไป
ในทางปฏิบัติ มีการน ามาใช้มากที่สุด เนื่องจากมาตรการแทนการพพากษาคดีไม่มีข้อจ ากัดเรื่องอตรา
ั
ิ
โทษ กล่าวคือสามารถน ามาใช้ได้ทุกคดี แต่ทั้งนี้ความผิดที่จะใช้ได้ ต้องมีพฤติการณ์แห่งคดีไม่เป็นภัยร้ายแรงต่อ
สังคมเกินสมควรและต้องเป็นไปตามข้อบังคับประธานศาลฎีกา แต่ปัญหาที่พบในทางปฏิบัติคือเด็กและเยาวชน
ส่วนใหญ่ที่ใช้มาตรา ๑๓๒ จะไม่ได้เรียนหนังสือหรือออกจากโรงเรียนโดยยังเรียนไม่จบและยังไม่มีงานท า
สภาพครอบครัวขาดความรักความอบอุ่น ต้องอยู่กับปู่ย่าตายายซึ่งไม่สามารถควบคุมดูแลได้อย่างทั่วถึงและมัก
ให้อสระกับเด็กและเยาวชนไม่มีกฎระเบียบในการดูแลเด็กและเยาวชนอย่างชัดเจน ปล่อยให้ออกไปเที่ยวเตร่
ิ
ี่
นอกบ้านในเวลากลางคืนและไปมั่วสุมและคบหากับบุคคลที่มีความประพฤติไม่ดี เสพหรือยุ่งเกยวกับยาเสพติด
ิ
่
ดังนั้น แม้มาตรการแทนการพพากษาคดีที่ศาลใช้จะเป็นผลดีแกเด็กและเยาวชน สามารถท าให้เด็กและเยาวชน
แก้ไขปรับปรุงตนเองได้ดี แต่เมื่อเด็กและเยาวชนต้องกลับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม หากไม่กลับไปเรียน
หนังสือหรือหางานท า เด็กและเยาวชนเหล่านั้นบางส่วนก็กลับไปกระท าความผิดซ้ าเช่นเสพและเกี่ยวข้องกับ
ยาเสพติด เนื่องจากยังคงกลับไปคบหากับบุคคลกลุ่มเดิม ดังนั้น ปัญหาที่แท้จริงคือการจะท าอย่างไรให้ปัญหายา
ู
เสพติดหมดไปจากประเทศไทย หากปัญหายาเสพติดได้รับการแกไขอย่างถกทาง ผู้เขียนมีความคาดหวังว่า เด็ก
้
ิ
และเยาวชนที่ศาลน ามาตรการพเศษแทนการด าเนินคดีอาญาตามมาตรา ๙๐ และมาตรการแทนการพพากษาคดี
ิ
ตามมาตรา ๑๓๒ มาใช้จะสามารถแก้ปัญหาการกระท าความผิดของเด็กและเยาวชนได้ในระดับหนึ่ง
ผู้เขียนยังมีความเห็นว่า มาตรการเบี่ยงเบนคดีตามมาตรา ๙๐ และมาตรา ๑๓๒ หากมีการน ามาปรับ
ใช้กับผู้กระท าความผิดที่เป็นผู้ใหญ่ โดยคงหลักการที่จะน ามาตรการอื่นแทนการลงโทษจ าคุกโดยเน้นการแก้ไข

