Page 1093 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1093

๑๐๘๑


                                                               40
                 เช่น คดีระหว่างสามีและภริยา ทั้งนี้ คณะผู้วิจัยของไทย  มีข้อเสนอว่า คดีอาญาที่มีผู้เสียหายทุกคดีที่คู่กรณี
                 สมัครใจเข้าสู่ระบบ กล่าวคือ จ าเลยส านึกผิดและประสงค์ที่จะเยียวยาแก่ผู้เสียหายและผู้เสียหายพร้อมให้อภัย

                 และยอมรับการเยียวยาของจ าเลย และคดีความผิดต่อแผ่นดินซึ่งอาจมีบุคคลหรือชุมชนใดได้รับความเสียหายก็

                                                                                      ิ
                 สมควรที่จะน าเข้าสู่กระบวนการประนอมข้อพพาทเชิงสมานฉันท์ได้ โดยไม่จ าต้องพจารณาว่าคดีเหล่านั้นจะมี
                                                       ิ
                 ระดับความร้ายแรงของโทษเพียงใดหรือเป็นคดีที่ยอมความได้หรือไม่ และในอนาคตอาจน าไปใช้ในคดีความผิด
                 ต่อรัฐที่ไม่มีผู้เสียหายโดยตรงแต่มีบุคคลหรือชุมชนเป็นผู้เสียหายโดยอ้อม (มิใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายได้) เช่น

                                                                                                       ิ่
                 คดียาเสพติดหรือคดีแข่งรถยนต์ในทางสาธารณะ เป็นต้น ทั้งนี้ คณะผู้วิจัยมีข้อเสนอให้มีการแก้ไขเพมเติม
                 กฎหมายทั้งในส่วนของกฎหมายสบัญญัติและกฎหมายวิธีสบัญญัติ ให้มีเนื้อหาเกี่ยวกับหลักการและแนวคิด

                 กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ที่จะน ามาใช้กับการประนอมข้อพพาทในคดีอาญา รวมถึงแนวทางการ
                                                                            ิ
                                                            ื้
                 เยียวยาความเสียหายให้กับผู้เสียหายและการแก้ไขฟนฟูจ าเลย ซึ่งหลักการดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการน า
                 กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาใช้เยียวยาผู้เสียหายและเป็นการแก้ไขตัวจ าเลยให้กลับคืนสู่สังคม โดยให้

                 สังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา อนเป็นการสร้างความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งวิธีการ
                                                      ั
                 ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการเบี่ยงเบนคดีอีกทางหนึ่งด้วย


                        ๓.๓ ตำมพระรำชบัญญัติศำลเยำวชนและครอบครัวและวธีพิจำรณำคดีเยำวชนและครอบครัว
                                                                           ิ
                 พ.ศ. ๒๕๕๓ มำตรำ ๙๐ มำตรกำรพิเศษแทนกำรด ำเนินคดีอำญำ


                        มาตรา ๙๐ เมื่อมีการฟองคดีต่อศาลว่าเด็กหรือเยาวชนกระท าความผิดอาญาซึ่งมีอตราโทษอย่างสูง
                                            ้
                                                                                              ั
                 ตามที่กฎหมายก าหนดไว้ให้จ าคุกไม่เกินยี่สิบปี ไม่ว่าจะมีโทษปรับด้วยหรือไม่ก็ตาม ถ้าปรากฏว่าเด็กหรือ
                                                  ิ
                 เยาวชนไม่เคยได้รับโทษจ าคุกโดยค าพพากษาถึงที่สุดให้จ าคุกมาก่อน เว้นแต่เป็นความผิดที่ได้กระท าโดย
                 ประมาทหรือความผิดลหุโทษ ก่อนมีค าพพากษา หากเด็กหรือเยาวชนส านึกในการกระท าและผู้เสียหาย
                                                     ิ
                 ยินยอมและโจทก์ไม่คัดค้าน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าพฤติการณ์แห่งคดีไม่เป็นภัยร้ายแรงต่อสังคมเกินสมควร

                 และศาลเห็นว่าเด็กหรือเยาวชนอาจกลับตนเป็นคนดีได้ และผู้เสียหายอาจได้รับการชดเชยเยียวยาตามสมควร
                 หากน าวิธีจัดท าแผนแก้ไขบ าบัดฟื้นฟู ซึ่งเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของเด็กหรือเยาวชนและต่อผู้เสียหายมากกว่า

                                                                      ิ

                      ิ
                 การพจารณาพพากษา ให้ศาลมีค าสั่งให้ผู้อานวยการสถานพนิจหรือบุคคลที่ศาลเห็นสมควรจัดให้มีการ
                              ิ
                 ด าเนินการเพื่อจัดท าแผนดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขให้เด็กหรือเยาวชน บิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือองค์การ
                                                                      ิ
                                                                   ื่
                 ซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศัยอยู่ด้วยปฏิบัติ แล้วเสนอต่อศาลเพอพจารณาภายในสามสิบวันนับแต่ที่ศาลมีค าสั่ง


                            ั
                               ้
                                                                                         ้
                                                                                      ์
                        40  วิชย ชางหัวหน้าและคณะ,  งานวิจัยเรื่อง การน าหลักความยุติธรรมเชิงสมานฉันทไปใชในการประนอมข้อพิพาท
                 ในคดีอาญา : ศึกษากรณีศาลอาญา,  ส านักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.),  (๒๕๕๑),  น. ๑๔๔-๑๔๕.
   1088   1089   1090   1091   1092   1093   1094   1095   1096   1097   1098