Page 1153 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1153
๑๑๔๑
ิ
เป็นคดีอาญาหมายเลขด าที่ อ.๑๒๘๖/๒๕๖๓ และคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพจารณา จากกรณีนี้จึง
เห็นได้ว่า เหตุการณ์ที่นางสาวจิตรลดาเคยก่อเหตุใช้มีดแทงท าร้ายเด็กนักเรียน ๔ ราย ภายในโรงเรียน
เซนโยเซฟคอนแวนต์มาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี ๒๕๔๘ สร้างความหวาดกลัวและวิตกกังวลแก่คนในสังคมว่า
อาจไม่ได้รับความปลอดภัยจากการกระท าความผิดของนางสาวจิตรลดา แม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏต่อศาล
ตามรายงานผลการวินิจฉัย และประเมินความสามารถในการต่อสู้คดีของแพทย์ในคดีดังกล่าวว่า
นางสาวจิตรลดาเริ่มมีความผิดปกติทางจิตมาตั้งแต่อายุ ๒๐ ปี มีอาการเหม่อลอย ชอบเข้าห้องน้ านาน ๆ
ั
ื่
จนกระทั่งเรียนใกล้จบประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงได้เล่าให้ญาติฟงว่า มีเพอนคนไทยเชื้อสายอนเดียที่
ิ
โรงเรียนท าของใส่ตนเอง เล่นไสยศาสตร์ มีคนสะกดรอยตาม ปองร้ายและคิดไม่ดีต่อตนเองตลอดเวลา
บางครั้งยิ้มและหัวเราะคนเดียว ญาติพาไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า เมื่อปี ๒๕๓๔ แต่
นางสาวจิตรลดาไม่ยอมรับประทานยา ทิ้งยา ปฏิเสธความเจ็บป่วยทางจิต ต่อมาปี ๒๕๓๖ ถึง ๒๕๔๘
ิ่
นางสาวจิตรลดามีอาการเก็บตัวอยู่คนเดียวและมีอาการทางจิตเพมมากขึ้น ญาติจึงพาไปรับการรักษาที่
ี
สถาบันกัลยาราชนครินทร์อกหลายครั้งจนอาการทางจิตทุเลา แพทย์จึงจ าหน่ายออกจากการรักษา
ู
ในช่วงปี ๒๕๔๗ ถึง ๒๕๔๘ นางสาวจิตรลดามีอาการเก็บตัว พดและยิ้มคนเดียว ปากเบี้ยว คอบิดไปมา
ี
มีอาการทางจิตก าเริบอก และแพทย์ให้ความเห็นในคดีว่า จ าเลยต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้การดูแลของแพทย์ตลอดไป ซึ่งจากข้อเท็จจริงดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เริ่มมี
11
อาการทางจิต จนกระทั่งไปก่อเหตุแทงเด็กนักเรียนในโรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์ นางสาวจิตรลดา
ไม่ได้รับการรักษาอาการทางจิตอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ไม่รับประทานยา ไม่ไปพบแพทย์และขาดการ
รักษาหลายครั้งเป็นระยะเวลานาน ประกอบกับเมื่อได้รับการกระตุ้น และการบีบคั้นจากบุคคลใน
ครอบครัว ท าให้ไม่สามารถควบคุมการกระท าของตนเองได้ การที่ศาลในคดีแรกมีค าสั่ง ให้ส่งนางสาว
ื่
จิตรลดาไปคุมตัวไว้เพอท าการตรวจรักษาที่สถาบันกัลยาราชนครินทร์ จนกระทั่งแพทย์ผู้ท าการรักษา
ั
เห็นว่า นางสาวจิตรลดาหายป่วยและสามารถอยู่ร่วมในสังคมได้โดยไม่เป็นอนตรายต่อผู้อนอกต่อไป
ี
ื่
ื่
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๔๘ แต่ปรากฏว่านางสาวจิตรลดาถูกคุมตัวเพอรับการรักษาที่
ี
สถาบันกัลยาราชนครินทร์เป็นระยะเวลาเพยง ๖ เดือน ศาลก็มีค าสั่งให้ปล่อยตัวนางสาวจิตรลดาออก
จากสถาบันกัลยาราชนครินทร์ แล้วนางสาวจิตรลดามาก่อเหตุกระท าความผิดซ้ าในปี ๒๕๖๓ แสดงว่า
มาตรการทางกฎหมายที่ศาลน ามาบังคับภายหลังมีค าพพากษาแก่กรณีของนางสาวจิตรลดา ยังไม่เพยง
ิ
ี
พอที่จะแก้ไขความผิดปกติทางจิต การป้องกันการกระท าความผิดซ้ า และไม่อาจป้องกันสังคมให้ได้รับ
ความปลอดภัยจากการความผิดปกติทางจิตของนางสาวจิตรลดา แม้จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า นางสาว
ื่
จิตรลดายังไปพบแพทย์เพอรักษาอาการทางจิตอยู่เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง แต่จากประวัติการรักษา
อาการทางจิตยังไม่มีหลักประกันว่า ความผิดปกติทางจิตที่เป็นอยู่จะสามารถรักษาหายเป็นปกติได้โดย
11 อ้างแล้วเชิงอรรถที่ ๑๐

