Page 1150 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1150

๑๑๓๘



                                          ิ
                 ในการกระท าของตน แต่เมื่อพจารณาจากพฤติการณ์และการกระท าของจ าเลยแล้วจะเห็นได้ว่า จ าเลย
                 สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติธรรมดา จนบุคคลทั่วไปไม่สามารถจะทราบได้ว่าจ าเลยป่วยด้วย

                 โรคจิตเภท ผู้ที่จะทราบว่าจ าเลยป่วยก็คือแพทย์ผู้ท าการรักษาหรือคนใกล้ชิดในครอบครัวเท่านั้น

                 พยานหลักฐานโจทก์มีน้ าหนักน่าเชื่อว่า จ าเลยตั้งใจใช้อาวุธมีดแทงเด็กนักเรียนที่มีรูปร่างลักษณะ
                                 ิ
                 หน้าตาคล้ายคนอนเดียและคนจีนของโรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์ จ าเลยเฝ้าดูพฤติการณ์ของ
                 ผู้เสียหายที่ ๑ มาก่อนและมีการไปดักรอผู้เสียหายที่ ๑ ติดตามผู้เสียหายที่ ๑ ประกอบกับจ าเลยมีเงินใช้

                                             ี
                 จ่ายเพอซื้ออาวุธมีดหลายเล่ม อกทั้งใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียหายทั้งสี่ที่มีหน้าตาลักษณะลูกครึ่งไทย –
                       ื่
                 อนเดีย และลูกครึ่งไทย – จีน อย่างรุนแรงและต่อเนื่องหลายครั้งถูกบริเวณอวัยวะส่วนส าคัญของ
                  ิ
                 ร่างกายทุกคน แล้วหลบหนีไปในระหว่างทางได้ทิ้งอาวุธมีด จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้า เปลี่ยนทรงผม และ
                 ย้ายที่อยู่พร้อมทั้งหางานท าใหม่ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่า จ าเลยยังสามารถรู้ผิดชอบการกระท าของ

                 ตนเองได้บ้างและสามารถบังคับตนเองได้บ้าง อกทั้งสามารถให้การแก่พนักงานสอบสวนและแพทย์ผู้ท า
                                                        ี
                 การรักษา โดยล าดับเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มต้นกระท าความผิด จึงต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ที่จ าเลยน า

                     ้
                 สืบอางว่า ขณะกระท าความผิดจ าเลยไม่สามารถรู้ผิดชอบหรือไม่สามารถบังคับตนเองได้ เป็นข้อกล่าว
                 อางลอย ๆ ไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุนหักล้างพยานโจทก์ พยานโจทก์มีน้ าหนักมั่งคงรับฟงได้โดย
                                                                                               ั
                  ้
                 ปราศจากสงสัยว่า ขณะจ าเลยใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียหายทั้งสี่นั้น จ าเลยป่วยด้วยโรคจิตเภท แต่ยัง
                 สามารถรู้รับผิดชอบอยู่บ้าง หรือยังสามารถบังคับตนเองได้บ้าง ซึ่งศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมาย

                                                                    ิ
                                            ี
                 ก าหนดไว้ส าหรับความผิดนั้นเพยงใดก็ได้ ในคดีนี้ศาลมีค าพพากษาให้จ าคุกจ าเลย ๔ ปี และมีค าสั่ง
                                   ้
                 ต่อไปว่า เมื่อจ าเลยพนโทษจ าคุกตามค าพพากษาแล้ว ให้ส่งตัวจ าเลยไปคุมไว้เพอท าการตรวจรักษาที่
                                                                                    ื่
                                                    ิ
                 สถาบันกัลยาราชนครินทร์ จนกระทั่งแพทย์ผู้ท าการรักษาเห็นว่า จ าเลยหายป่วยและอยู่ร่วมกับสังคมได้
                           ั
                                       ื่
                                         ี
                 โดยไม่เป็นอนตรายต่อผู้อนอกต่อไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๔๘ โดยให้แพทย์ผู้ท าการ
                 รักษาเสนอรายงานต่อศาลทุก ๖ เดือน  ต่อมาจ าเลยพ้นโทษจ าคุกตามคาพพากษาเมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน

                                                                              ิ
                                                 8
                 ๒๕๕๓  และถูกส่งไปคุมตัวที่สถาบันกัลยาราชนครินทร์  แพทย์หญิงดวงตา ไกรภัสสร์พงษ์ ได้รับตัว
                 จ าเลยไว้เพอท าการตรวจรักษาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๔๘ เมื่อตรวจอาการเบื้องต้นพบว่า
                          ื่
                 ปัจจุบันจ าเลยไม่มอาการทางจิต ไม่มีหูแว่ว ไม่มีไสยศาสตร์มาเข้าตัว นอนหลับได้ ผู้ป่วยรู้ตัวว่าตนเองได้
                                ี
                 ยารักษาชนิดใดบ้าง เล่าประสบการณ์ที่เคยได้ยา fendec ช่วงที่อยู่เรือนจ า มีอาการกระสับกระส่าย

                 อย่างมาก สมองเหมือนถูกบีบ ขอร้องแพทย์ไม่ให้ใช้ยาฉีด ช่วงที่อยู่ในทัณฑสถานออกก าลังกาย
                 สม่ าเสมอ  ไม่ต้องรับผิดชอบงาน หลังจากนั้นได้ท าการรักษาจ าเลยแบบผู้ป่วยใน จากนั้นแพทย์หญิง

                 ดวงตาได้สรุปผลการตรวจรักษายว่า ขณะอยู่ที่สถาบันกัลยาราชนครินทร์ จ าเลยมีสีหน้าแจ่มใส พดคุย
                                                                                                  ู
                 เรื่องราว ปฏิเสธอาการเจ็บป่วย ร่วมมือในการรักษาได้ หลังรับตัวไว้อาการทุเลา ต่อมาแพทย์หญิงดวงตา



                        8  ค าพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๓๕๕๔/๒๕๕๑ ศาลอาญากรุงเทพใต้ วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
   1145   1146   1147   1148   1149   1150   1151   1152   1153   1154   1155