Page 159 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 159

๑๔๖



                                ในกรณีที่มีผู้แจ้งความน าจับหรือเจ้าหน้าที่ผู้จับหลายราย ให้ศาลสั่งแบ่งจ่ายเงินสินบน

                 หรือเงินรางวัลแก่ผู้มีสิทธิได้รับเท่ากันทุกราย
                                                                               ื่
                                                                                        ี
                                ผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินในลักษณะอย่างเดียวกันตามกฎหมายอนแล้ว ไม่มสิทธิได้รับเงินสินบน
                 หรือเงินรางวัลตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ศาลจะมีค าสั่งเป็นอย่างอื่น

                                หลักเกณฑ์และอตราในการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลให้เป็นไปตามระเบียบ ที่ ก.บ.ศ.
                                             ั
                                                                                       7
                 ก าหนด โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง และประกาศในราชกิจจานุเบกษา  และค าสั่งของศาล
                 นั้นให้เป็นที่สุด

                               กำรเบิกจ่ำยค่ำตอบแทน ค่ำใช้จ่ำย ค่ำพำหนะ เงินสินบน และเงินรำงวัล

                                การเบิกจ่ายค่าตอบแทน ค่าใช้จ่าย ค่าพาหนะ เงินสินบน และเงินรางวัลแก่ผู้มีสิทธิได้รับ

                                                                  ิ
                 ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เบิกจ่ายจากเงินค่าปรับตามค าพพากษาในคดีอาญา ก่อนน าส่งคลังเป็นรายได้
                 แผ่นดิน โดยวิธีการเบิกจ่ายและรับเงินให้เป็นไปตามระเบียบที่ ก.บ.ศ. ก าหนดโดยความเห็นชอบของ

                 กระทรวงการคลัง และประกาศในราชกิจจานุเบกษา
                                                            8
                               ผู้รักษำกำร

                               ก าหนดให้ประธานศาลฎีการักษาการตามพระราชบัญญัตินี้


                                                                        ั
                 ๒. กำรจ่ำยเงินสินบนแก่ผู้แจ้งควำมน ำจับ และกำรจ่ำยเงินรำงวลแก่เจ้ำหน้ำที่ผู้จับนั้น เป็นกำรจูงใจ
                                                                                         ี
                     เพื่อเพิ่มประสิทธิภำพในกำรท ำงำนของผู้แจ้งควำมน ำจับและเจ้ำหน้ำที่ผู้จับ มแนวคิด ทฤษฎีที่
                     เกี่ยวข้อง คือ


                               ควำมหมำยแรงจูงใจในกำรท ำงำน
                                                            9
                               Loundon & Bitta (๑๙๘๘) ได้ให้ความหมาย “แรงจูงใจ” หมายถึง “สภาวะที่อยู่ภายใน

                 ตัวที่เป็นพลัง ท าให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่มีเป้าหมายที่ได้เลือกไว้แล้ว ซึ่งมักจะเป็น
                 เป้าหมายที่มีอยู่บนภาวะสิ่งแวดล้อม”

                                Pinder, C. (๑๙๙๘) ได้ให้ความหมาย แรงจูงใจในการท างาน หมายถึง แรงผลักดันหรือ
                 เงื่อนไขต่าง ๆ ที่มีอยู่ภายในและภายนอกตัวบุคคลที่กระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการท างาน ทิศทางในการ

                 กระท า ความเข้มข้นและระยะเวลาในการกระท า ดังนั้นแรงจูงใจจึงเป็นกระบวนการทางจิตใจที่เกิดจาก

                 การปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและสภาพแวดล้อม




                        7
                              เรื่องเดียวกัน
                        8
                              เรื่องเดียวกัน
                        9  จักรี ศรีจารุเมธีญาณและ สุรศักดิ์ อุดเมืองเพีย, “แรงจูงใจในการท างาน : ทฤษฎีและการประยุกต์ใช”,
                                                                                                 ้
                 วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์ , ฉบับท ๑ (มกราคม-เมษายน ๒๕๖๓), หน้า ๔๒๕-๔๒๖.
                                            ี่
   154   155   156   157   158   159   160   161   162   163   164