Page 685 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 685

๖๗๓




                                            ื้
                                     ื่
                 ตามทฤษฎีการลงโทษเพอแก้ไขฟนฟู ซึ่งโทษจ าคุกระยะสั้นหากบังคับใช้กับผู้กระทาความผิดนอกจากจะไม่

                                                                                         ้
                                 ื้
                 มีผลในการแก้ไขฟนฟผู้กระท าความผิดให้กลับตัวได้แล้ว ยังมีผลต่อการใช้ชีวิตหลังพนโทษเพราะผู้ที่มี
                                    ู
                                                                                                       ี
                 ประวัติได้รับโทษจ าคุกมาแล้วจะไม่เป็นที่ไว้วางใจของบุคคลรอบข้างเนื่องจากเกรงว่าจะกระท าผิดซ้ าอก

                                                                  ิ
                 ท าให้ยากต่อการหางานหรือประกอบอาชีพสุจริต โดยมีคาพพากษาศาลฎีกาหลายคดีที่รองรับว่าการบังคับ
                                                                                               ้
                 ใช้โทษจ าคุกระยะสั้นไม่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปรับปรุงตัวและการใช้ชีวิตภายหลังการพนโทษ เช่น
                     ิ
                 ค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๔๐๕/๒๕๔๗ ค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๑๘๗๕/๒๕๔๗ และค าพพากษาศาลฎีกาที่
                                                                                         ิ
                                                    ิ
                 ๑๔๔๗/๒๕๕๑ ทั้งสภาพของผู้กระท าความผิดบางคนก็ไม่เหมาะที่จะน าตัวไปจ าคุก เช่น หญิงมีครรภ์
                 คนชรา หรือผู้พการเจ็บป่วยเรื้อรังร้ายแรง ในบางคดีที่ผู้กระท าความผิดมิได้มีจิตใจชั่วร้ายมาแต่แรก เช่น
                              ิ
                 ผู้กระท าความผิดโดยประมาท ผู้กระท าความผิดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หรือกระท าความผิดเพราะยากจน
                 เจ็บป่วย เมื่อบุคคลเหล่านี้เข้าไปในเรือนจ าแล้วย่อมมีโอกาสพบนักโทษคนอนและอาจได้รับการสั่งสอนวิธี
                                                                                ื่
                 กระท าความผิดและรู้จักผู้ให้ความช่วยเหลือในการกระท าความผิด เช่น เครือข่ายผู้จ าหน่ายยาเสพติด
                 เครือข่ายผู้ที่สามารถจ าหน่ายจ่ายแจกทรัพย์ที่ได้จากการกระท าความผิด ท าให้เมื่อผู้กระท าความผิด

                  ้
                 พนโทษจ าคุกระยะเวลาสั้นแล้ว ผู้กระท าความผิดอาจน าความรู้ในการกระท าความผิดที่ได้รับขณะรับโทษ
                 จ าคุกมาใช้โดยมีเครือข่ายผู้ร่วมกระท าความผิดมากขึ้น อนเป็นการเพมโอกาสให้ผู้ที่มิได้มีจิตใจชั่วร้าย
                                                                  ั
                                                                             ิ่
                 มาแต่แรกแต่เคยได้รับโทษจ าคุกมาแล้วและมีความล าบากในการหางานหรือประกอบอาชีพสุจริต ให้

                 หวนกลับไปกระท าความผิดที่รุนแรงและก่อให้เกิดความเสียหายมากขึ้น วิธีการรอการก าหนดโทษหรือ
                 รอการลงโทษจึงเป็นวิธีที่ให้โอกาสผู้กระท าความผิดกลับตัว โดยยังไม่ต้องรับโทษและศาลอาจก าหนด

                 เงื่อนไขเพอคุมความประพฤติไว้ด้วยก็ได้ แม้การรอการก าหนดโทษหรือการรอการลงโทษและก าหนด
                          ื่
                                                                  ื้
                                                                     ู
                 เงื่อนไขเพอคุมความประพฤติจะเป็นการลงโทษเพอแก้ไขฟนฟ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมและมีการยอมรับว่า
                                                           ื่
                         ื่
                 เป็นการลงโทษที่ให้ประโยชน์ต่อสังคม แต่ในบางครั้งบุคคลทั่วไปอาจมองว่าเป็นการให้สิทธิพเศษ
                                                                                                    ิ
                                                                                             ื่
                 แก่ผู้กระท าความผิดที่ไม่ต้องรับโทษ เช่น กรณีผู้มีฐานะร่ ารวยขับรถขณะเมาสุราแล้วชนผู้อนจนเสียชีวิต
                 และศาลพพากษารอการลงโทษ ดังนั้น เพอลดมุมมองดังกล่าวควรมีการก าหนดโทษที่เหมาะสม และมี
                                                     ื่
                          ิ
                 มาตราการที่ท าให้สังคมเห็นว่าผู้กระท าความผิดได้รับโทษที่เหมาะสมกับความผิดที่ได้กระท าไปแล้ว โดย
                 การกล่าวในค าพพากษาว่าเพราะเหตุใดศาลจึงใช้ดุลพนิจในการรอการก าหนดโทษหรือการรอการลงโทษ
                                                              ิ
                               ิ
                 เช่น ผู้กระท าความผิดรู้ส านึกในการกระท าความผิดและชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ฝ่ายผู้เสียหายเหมาะสมกับ
                 ความเสียหายที่เกิดขึ้น และก าหนดเงื่อนไขให้ท างานบริการสังคมเพื่อให้สังคมเห็นว่าผู้กระท าความผิดได้รับ

                 ความล าบากจากผลการกระท าของตนเองแล้ว

                         โดยขั้นตอนการรอการก าหนดโทษหรือรอการลงโทษและคุมประพฤติ เริ่มจากการคัดเลือกบุคคล

                                                                            ิ
                 ที่จะได้รับการรอการก าหนดโทษหรือรอการลงโทษ โดยศาลอาจใช้ดุลพนิจเองหรือศาลอาจสั่งให้พนักงาน
                 คุมประพฤติด าเนินการสืบเสาะและพนิจจ าเลยตามพระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ.ศ.๒๕๕๙ มาตรา ๓๐
                                                ิ
                                                                                                ิ
                 วรรคหนึ่ง เพอศาลจะน าข้อมูลตามรายงานการสืบเสาะและพนิจดังกล่าวมาประกอบการพจารณาว่า
                            ื่
                                                                      ิ
                 ผู้กระท าความผิดดังกล่าวมีโอกาสที่จะกลับตัวเป็นพลเมืองดีหรือไม่ และหากจะให้โอกาสแล้วสมควรที่จะ
   680   681   682   683   684   685   686   687   688   689   690