Page 690 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 690

๖๗๘




                 ๖. บทสรุปและข้อเสนอแนะ


                            จากการศึกษาปัญหาอายุความการน าตัวจ าเลยมาบังคับโทษกรณีผิดเงื่อนไขการรอการก าหนด

                 โทษหรือการรอการลงโทษเพื่อคุมความประพฤติพบว่า กรณีศาลพิพากษาให้รอการก าหนดโทษหรือรอการ
                                                              ื่
                 ลงโทษจ าคุกผู้กระท าความผิด และก าหนดเงื่อนไขเพอคุมความประพฤติ ตามประมวลกฎหมายอาญา
                                                                                               ื่
                 มาตรา ๕๖ หากผู้กระท าความผิดนั้นผิดเงื่อนไขการรอการก าหนดโทษหรือรอการลงโทษเพอคุมความ
                 ประพฤติ และศาลก าหนดการลงโทษที่ยังไม่ได้ก าหนดหรือลงโทษซึ่งรอไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา
                 มาตรา ๕๗ เมื่อยังไม่ได้ตัวผู้กระท าความผิดมารับโทษจะมีการออกหมายจับจ าเลยเพอด าเนินคดีชั้นผิด
                                                                                         ื่
                 เงื่อนไขการรอการก าหนดโทษหรือการรอการลงโทษจ าคุก อย่างไรก็ดี ประมวลกฎหมายอาญามิได้ก าหนด

                 อายุความการน าตัวจ าเลยมาบังคับโทษในกรณีนี้ไว้โดยเฉพาะ จึงเกิดมีปัญหาว่าจะก าหนดอายุความ
                                                                                     ั
                                       ิ
                 อย่างไร และทางปฏิบัติผู้พพากษาในแต่ละคดีอาจมีการก าหนดอายุความแตกต่างกน ได้แก่ อายุความตาม
                 ฐานความผิดที่จ าเลยกระท า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๕ อายุความตามโทษจ าคุกที่ศาล
                 ก าหนด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๘ หรืออายุความตามระยะเวลาการรอการก าหนดโทษหรือ

                                                                                ั
                 การรอการลงโทษจ าคุก ท าให้เกิดความลักลั่นไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน อนเป็นผลให้จ าเลยในแต่ละคดี
                                                          ั
                                                                                                ิ
                 ที่เป็นกรณีเดียวกันได้รับความยุติธรรมที่แตกต่างกนได้ แนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงต้องพจารณาว่า
                                                                                             ้
                 อายุความในทางอาญาแบ่งเป็น ๒ ประการ คือ อายุความฟองร้อง คือ ก าหนดเวลาที่จะฟองและได้ตัว
                                                                    ้
                 ผู้กระท าความผิดมาศาล และอายุความล่วงเลยการลงโทษ คือ ก าหนดเวลาที่จะได้ตัวผู้กระท าความผิดมา
                 เพอรับโทษตามค าพพากษาอนถึงที่สุด และเมื่อการออกหมายจับจ าเลยตามกรณีปัญหาดังกล่าวเป็นการ
                   ื่
                                         ั
                                  ิ
                 ออกหมายจับจ าเลยเพื่อให้ได้ตัวมารับโทษ การก าหนดอายุความ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๘
                 ซึ่งเป็นอายุความล่วงเลยการลงโทษ โดยจะเป็นการเริ่มนับตั้งแต่มีค าพพากษาถึงที่สุด ในทางปฏิบัติจึงไม่
                                                                            ิ
                 เกิดปัญหาว่าอายุความเหลือน้อยหรือครบอายุความไปแล้ว ทั้งอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา

                 มาตรา ๙๘ ยังแยกระยะเวลาตามโทษที่ศาลลงโทษ หากโทษสูงอายุความก็จะยาว หากโทษน้อยอายุความ

                                                                                               ั
                 ก็จะสั้นลดหลั่นกันไป เหมาะสมกับโทษที่ศาลจะลงโทษจ าเลย ระยะเวลาดังกล่าวจึงสอดคล้องกบหลักของ
                 อายุความการลงโทษที่ถือว่าอายุความเป็นโทษอย่างหนึ่งที่ผู้กระท าความผิดได้รับเพราะต้องได้รับผลร้าย

                 จากการที่ต้องหลบหนีไม่อาจใช้ชีวิตประจ าวันเปิดเผยแบบบุคคลทั่วไปได้ อายุความตามประมวลกฎหมาย

                 อาญา มาตรา ๙๘ ซึ่งไม่มีปัญหาเรื่องเหลืออายุความน้อยหรือหมดอายุความไปแล้ว ส่งผลให้มีโอกาสจับตัว
                             ั
                 จ าเลยได้มากอนจะแสดงให้สังคมเห็นว่า ผู้กระท าความผิดซึ่งไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงตัวเองได้ต้องได้รับ
                                                                      ื่
                 โทษที่ตนเองได้กระท าไว้ และยังส่งผลในการยับยั้งไม่ให้บุคคลอนกระท าความผิดเช่นจ าเลย การก าหนด
                 อายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๘ จึงเป็นการก าหนดอายุความที่เหมาะสมแก่กรณีจ าเลย

                 ผิดเงื่อนไขการรอการก าหนดโทษหรือการรอการลงโทษเพอคุมความประพฤติ ดังนั้น เห็นควรก าหนดอายุ
                                                                 ื่
                 ความตามโทษจ าคุกที่ศาลก าหนดในค าพพากษานับแต่วันที่ค าพพากษาถึงที่สุด โดยแก้ไขเพมเติมประมวล
                                                                                            ิ่
                                                   ิ
                                                                      ิ
                 กฎหมายอาญา มาตรา ๕๗ วรรคสอง ดังนี้
   685   686   687   688   689   690   691   692   693   694   695