Page 694 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 694
๖๘๒
๑
ิ่
เพมขึ้นจนก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงที่จะท าให้ลูกหนี้ไม่สามารถช าระหนี้ได้ เห็นได้ชัดว่ากฎหมายที่แก้ไข
เพิ่มเติมในส่วนนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระส าคัญ ๒ ประการ ประการแรกเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยจาก
ั
ั
ั
เดิมอตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี เป็นอตราร้อยละ ๓ ต่อปี และเป็นอตราร้อยละ ๕ ต่อปีส าหรับดอกเบี้ยผิดนัด
ั
ของหนี้เงิน และประการที่สอง ให้มีการทบทวนอตราดอกเบี้ยทุกสามปี ศาลซึ่งเป็นองค์กรที่ใช้อานาจ
อธิปไตยฝ่ายตุลาการที่มีหน้าที่โดยตรงในการให้ความยุติธรรมแก่ประชาชนผู้มีอรรถคดีจึงควรทราบถึงความ
เป็นมาและบริบทที่เปลี่ยนแปลงของสังคมไทยเกี่ยวกับปัญหานี้ อย่างไรก็ดี รศ.ดร.มุนินทร์ พงศาปาน
๒
นักวิชาการด้านกฎหมาย เคยให้เห็นเกี่ยวกับการใช้ดุลพินิจก าหนดดอกเบี้ยผิดนัดของศาลไว้ว่า ศาลแต่ละแห่ง
จะใช้ดุลพนิจในการปรับลดที่ไม่เหมือนกัน ท าให้เกิดความไม่แน่นอนในระบบเศรษฐกิจเนื่องจากแต่ละคดี
ิ
ั
ั
มีอตราดอกเบี้ยผิดนัดที่สมควรมีอตราที่ไม่เท่ากัน อาจารย์พรชัย วิวัฒน์ภัทร นักวิชาการด้านกฎหมายเคย
ิ
่
ิ
ระบุความเห็นว่า “การให้อ านาจดุลพนิจแกผู้พพากษามาลงโทษย้อนหลังโดยการตบแต่งผลของสัญญาลงมา
ในขอบเขตที่อตวิสัยของผู้พิพากษาเห็นว่าเป็นธรรมและสมควรตามคติของผู้พพากษา แทนที่จะบอกกล่าวให้
ิ
ั
คู่สัญญารู้ชัดตั้งแต่แรกว่าศาลจะบังคับสิทธิหน้าที่อย่างไรและอยู่ภายในขอบเขตเพยงใด เป็นการปิดกั้น
ี
ิ
ความคิดสร้างสรรค์บริการทางการเงินการธนาคาร เพราะผู้ผลิตและผู้ขายเดาใจผู้พพากษาไม่ถูกว่าจะบังคับ
ให้เต็มที่ตามที่คู่สัญญาตกลงกันหรือไม่” คุณวาสนา เครือสา นักศึกษากฎหมายระดับปริญญาโทได้ท า
๓
วิทยานิพนธ์ระบุความเห็นว่า หลักการต่าง ๆ ตามกฎหมายแพงและพาณิชย์และกฎหมายว่าด้วยข้อสัญญาที่
่
ไม่เป็นธรรมเป็นหลักการที่กว้างจนท าให้ไร้ขอบเขต ไม่สามารถเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนได้ว่าการที่ศาลใช้
ดุลนิจในการปรับลดดอกเบี้ยผิดนัดหรือเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนเป็นจ านวนเท่าใดจึงจะถือว่าเป็นธรรมและ
พอสมควรแก่กรณี และคุณสฤษฎ์ กลั่นสุภา นักศึกษากฎหมายระดับปริญญาโทได้ค้นคว้าข้อมูลเพอท า
๔
ื่
วิทยานิพนธ์โดยศึกษาค าพพากษาของศาลแขวงแห่งหนึ่งเมื่อปี ๒๕๕๐ เกี่ยวกับมูลหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งมี
ิ
ั
ดอกเบี้ยระหว่างปฏิบัติตามสัญญาในอตราร้อยละ ๒๐ ถึง ๒๒ ต่อปี แต่ปรากฏว่าศาลแขวงดังกล่าวใช้
ิ
ดุลพนิจก าหนดดอกเบี้ยผิดนัดในอตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี, ๑๐ ต่อปี และ ๑๒ ต่อปี ซึ่งดอกเบี้ยผิดนัดที่ศาล
ั
ุ
ก าหนดเป็นอตราที่ต่ ากว่าดอกเบี้ยระหว่างปฏิบัติตามสัญญา แต่โจทก์ก็ไม่ได้อทธรณ์คดีเนื่องจากเป็นคดีที่
ั
ต้องห้ามอทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งนักศึกษากฎหมายคนดังกล่าวให้ความเห็นเกรงว่าผู้พพากษาเจ้าของ
ิ
ุ
๑ พระราชก าหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.๒๕๖๔
๒ รศ.ดร.มุนินทร์ พงศาปาน ศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,/ “สนทนาปัญหากฎหมาย
กับรศ.ดร.มุนินทร์ พงศาปาน เรื่อง อัตราดอกเบี้ยตามกฎหมายที่แก้ไข”,/ www.law.tu.ac.th”,/ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๔
๓ พรชัย วิวัฒน์ภัทรกุล. (๒๕๔๘) หลักกฎหมายแพ่งว่าการให้บริการธนาคาร. กรุงเทพฯ : โครงการต าราและ
เอกสารประกอบการสอนคณะนิติศาสตร์มหาลัยธรรมศาสตร์ หน้า ๑๕๙ - ๑๖๐
๔ วาสนา เครือสา. (๒๕๕๒),/ “หลักการใช้ดุลพินิจของศาลในการปรับลดดอกเบี้ยที่สูงเกินส่วน”,/ วิทยานิพนธ์
ปริญญามหาบัณฑิต. กรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์./ หน้า ๑๘๗