Page 747 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 747
๗๓๕
ทั้งสองกรณีขยายระยะเวลาได้ครั้ง ๑๕ วัน ไม่เกิน ๒ ครั้ง หากไม่แล้วเสร็จต้องขอ
อนุญาตประธานศาลฎีกา แต่กระบวนการต้องแล้วเสร็จภายใน ๑๘๐ วัน การตั้งกรรมการสอบวินัยต้องมี
กรรมการอย่างน้อย ๓ คน
กรณีผิดวินัยเล็กน้อย สามารถว่ากล่าวตักเตือนได้ (งดการลงโทษ) และไม่ถือว่าผู้นั้นถูก
ด าเนินการทางวินัย
(๑) หากการสอบสวนพบว่ากรณีไม่มีมูลเป็นความผิดวินัย ให้ผู้พพากษาหัวหน้าศาล
ิ
ยุติเรื่อง และรายงานผล ให้ประธานศาลฎีกาทราบ
(๒) หากพบว่าเป็นกรณีความผิดวินัย ให้ผู้พพากษาหัวหน้าศาลสรุปผล และเสนอ
ิ
ความเห็นต่อประธานศาลฎีกาเพื่อด าเนินการทางวินัยแก่ผู้ถูกกล่าวหาต่อไป -
การกล่าวหาดังต่อไปนี้ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลอาจไม่ด าเนินการสอบสวนก็ได้
(๑) การกล่าวหากระท าโดยหนังสือสนเท่ห์ซึ่งไม่มีชื่อ และที่อยู่ของผู้กล่าวหาหรือไม่มี
พยานหลักฐานแวดล้อมชัดแจ้ง ตลอดจนชี้พยานบุคคลแน่นอนพอที่จะสอบสวนได้
(๒) การกล่าวหาไม่มีข้อมูล หรือมีสาระเพียงพอจะสอบสวนหาความจริงได้
(๓) การกล่าวหาที่ผู้กล่าวหาไม่ใช่ผู้เสียหาย
ิ
๖.๔ ผู้พพากษาหัวหน้าศาลไม่มีอานาจแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีผู้พพากษาถูก
ิ
กล่าวหาว่ากระท าผิดวินัยอย่างร้ายแรง คือ กรณีที่การสอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นต้นปรากฏว่ามีมูลว่าการ
กระท าของของตุลาการมีโทษถงไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก (การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีผิด
ึ
วินัยอย่างร้ายแรงเป็นอ านาจของประธานศาลฎีกา)
โทษทางวินัย (ก.พ.)
กรณีไม่ร้ายแรง ได้แก่ ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดเงินเดือน กรณีร้ายแรง ได้แก่
ปลดออก ไล่ออก
โทษทางวินัย(ตุลาการ)
กรณีไม่ร้ายแรง ได้แก่ ภาคทัณฑ์ งดบ าเหน็จ ๑ ปี หรือ ๒ ปี (เช่น นั่งพจารณาเพยง
ี
ิ
๒๐-๓๐ นาที แล้วลงบัลลังค์ไปเว้นแต่ติดพิจารณาคดีอื่น) ตัดเงินเดือน ลดเงินเดือน
กรณีร้ายแรง ได้แก่ ปลดออก ให้ออก(คือทั้งสมัครใจลาออก หรือบังคับให้ลาออก
ได้รับบ าเหน็จ บ านาญ) ไล่ออก (ไม่ได้รับบ าเหน็จบ านาญ)
ส่วนที่ ๗ ระบบงานธุรการของศาล
ผู้พพากษาหัวหน้าศาลมีอานาจหน้าที่ในการบริหารระบบงานธุรการของศาลด้วยความ
ิ
ื่
ระมัดระวังการใช้ระเบียบวิธีการต่างๆ ที่ก าหนดตามกฎหมายหรือโดยประการอนให้เป็นไปด้วยความ
ิ
ิ
ื่
ถูกต้อง เพอให้การพจารณาพพากษาคดีเสร็จไปโดยรวดเร็ว ให้ค าแนะน าแก่ผู้พพากษาในศาลนั้นใน
ิ
ข้อขัดข้องจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พพากษา เช่น อาจออกค าแนะน าของผู้พิพากษาหัวหน้าศาลในปัญหา
ิ
ื่
ข้อกฎหมายเพอให้ผู้พิพากษาปฏิบัติให้เป็นไปในแนวเดียวกัน นอกจากนี้จะต้องร่วมมือกับเจ้าพนักงานฝ่าย
ั
ปกครองในบรรดากิจการอนเกี่ยวกับการจัดวางระเบียบและการด าเนินการงานส่วนธุรการของศาล และ
อาจมีผู้ท าการแทน ดังนี้
๑. ผู้พิพากษาที่มีอาวุโสสูงสุดหรือผู้พิพากษาที่มีอาวุโสถัดลงมาตามล าดับในศาลนั้น
ิ
๒. ประธานศาลฎีกาสั่งให้ผู้พพากษาคนหนึ่งมาเป็นผู้ท าการแทน