Page 746 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 746
๗๓๔
๖.๒ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลอาจประเมินผลงานในการเลื่อนขั้นเงินเดือนและการแต่งตั้งให้
ด ารงต าแหน่งของข้าราชการศาลยุติธรรมโดยผ่านผู้อานวยการประจ าส านักงานศาลยุติธรรมซึ่งมีสิทธิ
ประเมินผลงานข้าราชการศาลยุติธรรมในสังกัด การประเมินนี้จะมีผลถึงค่าตอบแทนของข้าราชการ และ
ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้พิพากษาหัวหน้าศาล
ข้อสังเกต ถ้าเป็นกรณีข้าราชการธุรการให้ใช้พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. 2551 มาตรา ๗๖ โดยการประเมินผลการปฏิบัติราชการเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารผล
ื่
การปฏิบัติ ราชการ เป็นการวัดผลส าเร็จของงานในช่วงที่ก าหนดไว้แน่ชัด เพอเปรียบเทียบผลส าเร็จของ
งานกับเป้าหมายที่กาหนด ว่าผลส าเร็จในการปฏิบัติงานของแต่ละบุคคลเกิดขนได้ตามเป้าหมายจริงหรือไม่
ึ้
อย่างไร
- การประเมนจะเป็นการประเมินตามสิ่งที่ตกลงกันไว้หรือผลสัมฤทธิ์ของงานซึ่งก าหนดโดย
ิ
ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย รวมถึงพฤติกรรมที่แสดงออกในการปฏิบัติงานซึ่งก าหนดโดยสมรรถนะ
- ในการประเมินจะน าคะแนนการประเมินผลสัมฤทธิ์ กับคะแนนการประเมิน
ิ
สมรรถนะ มาค านวณรวมกันจะได้คะแนนผลการปฏิบัติราชการ ซึ่งจะน าไปใช้ในการพจารณาความดี
ความชอบ ตลอดจนใช้เป็นข้อมูลในการปรึกษาหารือระหว่างผู้ปฏิบัติกับผู้บังคับบัญชา เพอน าไปสู่การ
ื่
พัฒนาปรับปรุงประสิทธิผลในการปฏิบัติราชการ ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรต่อไป
๖.๓ กรณีเป็นที่สงสัยว่าตุลาการกระท าผิดวินัย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลอาจสอบสวน
ข้อเท็จจริงชั้นต้นโดยให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงเรื่องราวเป็นหนังสือหรือตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
ชั้นต้นตามกระบวนการด าเนินการทางวินัย โดยแต่งตั้งจากข้าราชการตุลาการซึ่งมีอาวุโสไม่ต่ ากว่าผู้ถูก
กล่าวหา ในศาลเดียวกันหรือศาลอื่นก็ได้ตามความเหมาะสม(กรณีตั้งผู้พิพากษาศาลอื่นต้องเสนอความ
จ าเป็นต่อประธานศาลฎีกาหรืออธิบดีผู้พพากษาภาค) คณะกรรมการสอบสวนชั้นต้นต้องไม่เกิน ๓๐ วัน
ิ
นับแต่ได้รับแต่งตั้ง ขยายระยะเวลาออกไปได้อีกไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกิน ๑๕ วัน แต่ผู้พิพากษา
หัวหน้าศาลสั่งให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสอบสวนเพิ่มเติมได้ในเวลาที่ก าหนดตามที่จ าเป็น
- กรณีไม่มีการตั้งกรรมการสอบวินัย ต้องสอบสวนให้เสร็จใน ๔๕ วัน
- กรณีมีการตั้งกรรมการสอบวินัย ต้องสอบสวนให้เสร็จใน ๓๐ วัน