Page 108 - 2553-2561
P. 108
ค�าวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลที่ ๑๒๐/๒๕๕๖ ศาลแพ่ง
ศาลปกครองระยอง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
พระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า พ.ศ. ๒๔๘๑
ประมวลกฎหมายที่ดิน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คดีที่โจทก์เป็นเอกชนยื่นฟ้องจ�าเลยทั้งสามซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ อ้างว่าโจทก์
เป็นเจ้าของที่ดินตาม น.ส. ๓ ก. โดยซื้อมาและจดทะเบียนต่อจ�าเลยที่ ๓ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานที่ดิน แต่จ�าเลย
ที่ ๓ มีหนังสือแจ้งโจทก์ว่าการจดทะเบียนดังกล่าวคลาดเคลื่อน เพราะอยู่ในเขตป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครอง
และสงวนป่า พ.ศ. ๒๔๘๑ และ พ.ร.ฎ.ก�าหนดที่ดินเป็นป่าคุ้มครองป่าบางละมุง จึงมีค�าสั่งเพิกถอน น.ส. ๓ ก.
ของโจทก์ ขอให้พิพากษาเพิกถอนค�าสั่งเพิกถอน น.ส. ๓ ก. ของโจทก์ จ�าเลยทั้งสามให้การว่า ที่ดินพิพาท
เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้เขตศรีราชาตรวจสอบพบว่า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติบางละมุง
การเพิกถอนหนังสือรับรองการท�าประโยชน์จึงชอบด้วยกฎหมาย เห็นว่า การที่ศาลจะพิพากษาตามค�าขอ
ของโจทก์ได้นั้น จะต้องพิจารณาให้ได้ความเสียก่อนว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ตามที่กล่าวอ้างหรือเป็นที่ดิน
ที่อยู่ในเขตป่าคุ้มครองอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จึงเป็นคดีเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน แต่อย่างไรก็ตาม
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีเอกชนผู้ซื้อที่ดินและผู้รับจ�านองที่ดินแปลงอื่นที่ออก น.ส. ๓ ก. โดยอาศัยหลักฐาน
ส.ค. ๑ เช่นเดียวกับที่ดินของโจทก์และอยู่ในบริเวณเดียวกับที่ดินของโจทก์ได้ยื่นฟ้องอธิบดีกรมที่ดิน จ�าเลยที่ ๒
ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลเพิกถอนค�าสั่งอธิบดีกรมที่ดินกรณีให้แก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ใน น.ส. ๓ ก.
ที่ออกโดยอาศัย ส.ค. ๑ ซึ่งศาลปกครองกลางได้พิจารณาและมีค�าพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ข้อพิพาทในคดีนี้
จึงชอบที่จะพิจารณาพิพากษาในศาลปกครอง
รวมย่อค�าวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลที่น่าสนใจ
พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๖๑ 107