Page 103 - 2553-2561
P. 103

ค�าวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลที่ ๗๙/๒๕๖๑                 ศาลจังหวัดบุรีรัมย์

                                                                                 ศาลปกครองนครราชสีมา



             รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
             พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒

             ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์



                      รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๙๔ และมาตรา ๑๙๗ และพระราชบัญญัติจัดตั้ง
             ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) มีเจตนารมณ์ในการก�าหนดเขต

             อ�านาจในการพิจารณาพิพากษาคดีระหว่างศาลยุติธรรมและศาลปกครอง โดยให้ศาลปกครองมีอ�านาจหน้าที่

             ตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายของการกระท�าทางปกครอง ซึ่งต้องวินิจฉัยตามระบบกฎหมายมหาชน
             ส่วนอ�านาจหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิของเอกชน หรือข้อพิพาทที่มีผลกระทบต่อกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง
             ของเอกชน เป็นปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามระบบกฎหมายเอกชน ซึ่งอยู่ในอ�านาจพิจารณาพิพากษาของ

             ศาลยุติธรรม เมื่อคดีนี้โจทก์ทั้งสองเป็นเอกชนอ้างว่าเป็นผู้ครอบครองที่ดินตามแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน

             (ส.ค. ๑) เลขที่ ๑๗๖ ยื่นฟ้องจ�าเลยที่ ๑ และที่ ๒ ซึ่งเป็นเอกชนเจ้าของที่ดิน และองค์การบริหารส่วนต�าบล
             ผไทรินทร์ จ�าเลยที่ ๓ ซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครอง และจ�าเลยที่ ๔ และที่ ๕ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ว่า
             ร่วมกันหลอกลวงโจทก์ทั้งสองในขณะที่โจทก์ทั้งสองน�าที่ดิน ส.ค. ๑ ดังกล่าวขอออกโฉนดที่ดิน โดยให้ลงชื่อใน

             บันทึกข้อความ ลงวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๒ แจ้งว่าเป็นการรับรองแนวเขตที่ดินข้างเคียงถนนหรือทางส่วนตัวของ

             โจทก์ทั้งสอง ซึ่งความจริงเป็นการลงชื่ออุทิศที่ดินพิพาทให้เป็นทางสาธารณะ การหลอกลวงดังกล่าวท�าให้โจทก์
             ทั้งสองหลงเชื่อและลงชื่อในบันทึกข้อความอันเป็นการส�าคัญผิดในสาระส�าคัญของนิติกรรม ต่อมา จ�าเลยที่ ๑
             และที่ ๒ ได้น�าที่ดินตาม ส.ค. ๑ เลขที่ ๒๐๔ ของตนไปออกโฉนดที่ดินและน�ารังวัดชี้เอาที่ดินของโจทก์ทั้งสอง

             ดังกล่าวไปเป็นทางสาธารณะ ขอให้ศาลมีค�าพิพากษาให้นิติกรรมอุทิศที่ดินดังกล่าวให้เป็นทางสาธารณะตก

             เป็นโมฆะ ให้เพิกถอนรายการทางสาธารณประโยชน์พิพาทอันเกิดจากนิติกรรมการแสดงเจตนาโดยส�าคัญผิด
             ตามบันทึกข้อความ ฉบับลงวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๒ และห้ามจ�าเลยทั้งห้าเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาท อันเป็น
             ค�าฟ้องที่ขอให้เพิกถอนนิติกรรมที่เกิดจากการแสดงเจตนาโดยส�าคัญผิดและถูกหลอกลวงเป็นส�าคัญเพื่อให้ที่ดิน

             พิพาทกลับมาเป็นของตน ลักษณะตามค�าฟ้องดังกล่าวจึงเป็นการขอให้ศาลรับรองสิทธิครอบครองที่ดินของ

             โจทก์ทั้งสอง โดยการพิจารณาพิพากษาคดีนี้ศาลต้องวินิจฉัยเรื่องสิทธิในทรัพย์สินและความสมบูรณ์ของนิติกรรม
             ทางแพ่งอันเป็นไปตามหลักกฎหมายเอกชน ข้อพิพาทในคดีนี้จึงมิใช่คดีพิพาทเกี่ยวกับการขอให้ตรวจสอบความ
             ชอบด้วยกฎหมายของค�าสั่งทางปกครอง อันจะเข้ากรณีพิพาทตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธี

             พิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) แต่เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สิน

             ของเอกชนและการเพิกถอนนิติกรรมทางแพ่ง ที่อยู่ในอ�านาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม








                รวมย่อค�าวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลที่น่าสนใจ
         102    พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๖๑
   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108