Page 74 - คู่มือปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุตจริตฯ
P. 74

คู่มือการปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
                                                                                                        | 63



                                                     ๗. การพิพากษา




                                พ.ร.บ. วิ. ทุจริตฯ ไม่ได้ก าหนดรูปแบบและเนื้อหาของค าพิพากษารวมทั้งระยะเวลา

                     ในการอ่านค าพิพากษาคดีไว้ จึงต้องน า ป.วิ.อ. มาตรา 182 และมาตรา ๑๘๖ มาใช้บังคับ


                                ข้อสังเกต

                                ๑. จ าเลยในคดีทุจริตฯ ซึ่งใช้ระบบการพิจารณาคดีแบบไต่สวนยังคงได้รับการ

                     สันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะพิพากษาว่าจ าเลยกระท าความผิด โดยใช้มาตรฐาน

                     การพิสูจน์ว่าต้องรับฟังพยานหลักฐานให้ได้ความจนปราศจากข้อสงสัยว่าจ าเลยได้กระท า


                     ความผิดจริงจึงพิพากษาลงโทษจ าเลยได้ (proof  beyond  reasonable  doubt) ทั้งนี้

                     หากพยานหลักฐานของคู่ความที่น าสืบต่อศาล รวมทั้งพยานหลักฐานที่ศาลใช้อ านาจเรียกมานั้น

                     ยังไม่เป็นที่พอใจหรือยังมีข้อสงสัยตามสมควรว่าจ าเลยกระท าผิดตามฟ้อง มีปัญหาว่า

                     ศาลสามารถพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จ าเลยตาม ป.วิ.อ.

                     มาตรา 227 วรรคสอง ได้หรือไม่ ยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่


                                ความเห็นที่หนึ่ง เห็นว่า ระบบการพิจารณาคดีในระบบไต่สวน ศาลมีบทบาท

                     หน้าที่ในการค้นหาความจริงในคดี และมีอ านาจแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจนเป็นที่ยุติหรือ

                     สิ้นสงสัยแล้วจึงพิจารณาพิพากษาคดีโดยจะไม่มีการยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จ าเลย

                     เหมือนใน ป.วิ.อ. มาตรา 227 วรรคสอง

                                ความเห็นที่สอง เห็นว่า ป.วิ.อ. มาตรา 227 ก าหนดมาตรฐานการพิสูจน์ไว้ว่า

                     เมื่อศาลชั่งน้ าหนักพยานหลักฐานทั้งปวงแล้ว มีเหตุอันควรสงสัยว่าจ าเลยไม่ได้กระท าความผิด

                     ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้แก่จ าเลย ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานที่ให้


                     สันนิษฐานไว้ก่อนว่า จ าเลยเป็นผู้บริสุทธิ์อันเป็นหลักนิติธรรมที่ใช้กับคดีอาญาทุกประเภท

                     ไม่ว่าจะใช้ระบบกล่าวหาหรือระบบไต่สวนก็ตาม ส่วน พ.ร.บ. วิ. ทุจริตฯ  มาตรา 6 บัญญัติให้

                     น าระบบไต่สวนตามที่ก าหนดใน พ.ร.บ. และข้อบังคับของประธานศาลฎีกาฯ มาใช้กับคดีทุจริตฯ

                     ในกรณีที่ พ.ร.บ. หรือข้อบังคับของประธานศาลฎีกาฯ ไม่ได้ก าหนดเรื่องใดไว้โดยเฉพาะก็ให้น า

                     ป.วิ.อ. มาใช้บังคับเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้ ดังนั้น เมื่อตาม พ.ร.บ.
   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79