Page 110 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 110
๙๒
* สปิลเบอร์เกอร์ ได้เสนอเวลาที่ใช้ในการตอบแบบวัดชุดนี้ให้เสร็จสมบูรณ์สำหรับบุคคลที่
ี
ิ
ุ
ั
้
่
ี
ื
้
้
ี
ึ
้
มอาย ๒๐ ปขนไป ควรใชเวลา ประมาณ ๑๐ - ๒๐ นาท เพ่อปองกนการใชความคดในการตอบมากกวา
ี
่
ใช้ความรู้สึกท่เกิดขึ้นจริงภายในจิตใจ ทางจิตวิทยาเรียกวา กลไกการป้องกันทางจิต (Psychological
defense mechanisms) ในกรณีนี้คือ หากผู้ตอบคำถามคิดว่าคำถามบางข้อตอบแล้วจะทำให้เป็น
ผลเสียต่อตนเองก็อาจตอบตามความคิดไม่ใช่ตอบตามความจริงได้
๔) เกณฑ์กำรแปลผลควำมโกรธทำงจิตวิทยำ
การแปลผล สปิลเบอร์เกอร์ ได้เสนอให้ใช้ตำแหน่งเปอร์เซนไทล์เป็นค่ากำหนดระดับความ
โกรธหรือการแสดงความโกรธ โดยมีความหมายดังนี้
ค่าคะแนนเปอร์เซนไทล์ < ๒๐ เป็นผู้ที่เมื่อเกิดความโกรธแล้วสามารถควบคุมได้
ค่าคะแนนเปอร์เซนไทล์ ๒๐ - ๗๕ เป็นผู้ที่เมื่อเกิดความโกรธแต่เก็บไว้ภายใน ไม่ถึงกับ
ส่งผลกระทบแก่ผู้อื่น
ค่าคะแนนเปอร์เซนไทล์ > ๗๕ เป็นผู้ที่เมื่อเกิดความโกรธแล้วจะแสดงออกภายนอกและ
ส่งผลกระทบทางลบแก่ผู้อื่นได้
๕) เกณฑ์กำรแปลผลควำมโกรธทำงพระพุทธศำสนำ
พระพทธทาส ได้กล่าวถึง ประเภทของความโกรธไว้ว่า ความโกรธบางประเภทนั้นจะแสดง
ุ
ออกมาไม่ได้ ประเภทที่แสดงออกมาได้กาย ทางวาจา และความโกรธชนิดที่เก็บไว้เป็นความเคยชินจน
๕
เป็นนิสัยโกรธง่าย (ปฏิฆานุสัย) พระพุทธทาส ได้แบ่งระดับความโกรธไว้ ๓ ระดับ ดังนี้
(๑) ปฏิฆะ (ระดับเล็กน้อย) หมายถึง ปรากฏเพียงอาการแค่ขัดใจ เช่น หงุดหงิด
กระทบกระทั่งจิตใจ เบาบางจน บางครั้งก็มองไม่เห็น
(๒) โกธะ (ระดับปานกลาง) หมายถึง ลักษณะเดือดดาล โกรธ
(๓) อุปนาหะ (ระดับมากที่สุด) คือ การผูกโกรธ มีความอาฆาต พยาบาท จองเวร
ผู้วิจัยเห็นว่าการวัดความโกรธในพระพุทธศาสนาเป็นการวัดในระดับสภาวธรรม ซึ่ง
ปัจจุบันยังไม่มีเครื่องมือใดวัดออกมาได้ทางวิทยาศาสตร์วัดออกมาได้ ส่วนทางจิตวิทยาวัดความโกรธ
ออกมาจากการกระทำหรือพฤติกรรมที่แสดงออกทางกายและวาจา ผลที่ได้เป็นเพียงแนวโน้มการ
คาดคะเน หรือคาดการณ์ เท่านั้น
๕ พุทธทาสภิกขุ, เก็บควำมโกรธใส่ยุ้งฉำง, (กรุงเทพมหานคร: ธรรมสภา, ๒๕๔๕), หน้า ๓๖-๕๖.

