Page 53 - Liver Diseases in Children
P. 53
ภาพวินิจฉัยของตับและระบบทางเดินน�าดในเด็ก 43
้
ี
pthaigastro.org
ี
ของรอยโรค เช่น ขนาด รูปร่าง ความทึบรังส ช่วยให้สามารถวินิจฉัยพยาธิสภาพของตับและระบบ
้
�
�
(density) การกระจายตัว และขอบเขตของความผิด ทางเดินนาดีได้แม่นยาและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ื
่
ปกติ (รูปที่ 3.1ข) นอกจากนั้นยังน�าภาพตัดขวางเหล่าน ้ ี อย่างต่อเนอง การตรวจวนิจฉัยด้วยเอ็มอาร์ไอไม่มี
ิ
ี
่
ื
มาสร้างเป็นภาพในท่าด้านตรงหน้าหลัง (coronal รังสที่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยอของเด็กจึงค่อนข้าง
plane) และท่าด้านข้างซ้ายขวา (sagittal plane) ได้ ปลอดภัย ถึงแม้ว่าปัจจุบันการตรวจจะเร็วขึ้นกว่าใน
อีกด้วย การฉีดสารทึบรังสี (iodinated contrast อดีตมาก แต่ก็ยังใช้เวลาในการตรวจนานกว่า
ิ
media) เข้าไปทางหลอดเลือดด�าช่วยเพ่มความคมชัด เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ประมาณ 20-40 นาทีแล้วแต่
ของภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หลังจากฉีดสาร เทคนิคและพยาธิสภาพที่สงสัย จึงมีข้อเสียหลักที ่
ทึบรังสีเข้าไปแล้วสามารถเลือกช่วงเวลาที่จะตัดภาพ ต้องคานึงถึง คือ เด็กเล็กมักต้องอาศัยการดมยาสลบ
�
ิ
เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ได้ โดยอาศัยระยะเวลาตามที ่ ซ่งก็เพ่มความเส่ยงในการดมยาสลบเข้ามาด้วย
ึ
ี
สารทึบรังสีเข้าไปในหลอดเลือด มักแบ่งเป็นช่วง ก้อนเน้อในตับสามารถวินิจฉัยได้ดีด้วยเอ็มอาร์ไอ
ื
หลอดเลือดแดง (arterial phase) หลอดเลือดด�า มากกว่าเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ โดยเอ็มอาร์ไอ
8
(portovenous phase) และช่วงที่สารทึบรังสีค้างอยู่ สามารถช่วยยืนยันการวินิจฉัยรอยโรคทีไม่สามารถ
่
ึ
ในเน้อเย่อหลังจากฉีดสารทึบรังสีไประยะเวลาหน่ง ให้การวินิจฉัยสุดท้ายได้จากอัลตราซาวนด์หรือ
ื
ื
(delayed phase) พยาธิสภาพของตับและระบบ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เช่น hemangioma, focal
้
ทางเดินน�าดีจะมีการจับสารทึบรังสีในช่วงเวลาต่าง ๆ nodular hyperplasia, complex cyst ซึ่งท�าให้ช่วย
ที่แตกต่างกันเป็นลักษณะเฉพาะ ซึ่งลักษณะการจับ ลดการส่งตรวจชิ้นเนื้อด้วยการเจาะ (biopsy) การ
สารทึบรังสีนี้สามารถช่วยวินิจฉัยแยกโรคของตับ ผ่าตัด และลดจ�านวนคร้งในการติดตามทางรังสีวิทยา
ั
และระบบทางเดินน�้าดีได้เป็นอย่างดี จุดประสงค์หลักของการตรวจก้อนเนื้อในตับด้วย
เอ็มอาร์ไอ คือ เพ่อดูลักษณะของก้อนเนื้อและการจับ
ื
กับสารแกโดลิเนียม (gadolinium enhancement)
กำรสร้ำงภำพด้วยสนำมแม่เหล็กไฟฟ้ำ ว่าเข้าได้กับพยาธิสภาพชนิดใด ประเมินระยะของโรค
หรือเอ็มอำร์ไอ และประเมินว่าสามารถผ่าตัดได้หรือไม่ (รูปที่ 3.8)
ในปัจจุบันการน�าเอ็มอาร์ไอมาใช้ในการช่วย นอกจากนี้เอ็มอาร์ไอยังช่วยวินิจฉัยและประเมิน
ตรวจวินิจฉัยพยาธิสภาพของตับและระบบทางเดิน ปรมาณของไขมันหรอเหล็กทีสะสมผิดปกติในตับ
่
ื
ิ
้
น�าดีได้รับความนิยมในวงกว้าง เน่องจากมีการพัฒนา (รูปที่ 3.9) รวมถึงการเกิดพังผืดในเนื้อตับ (hepatic
ื
อย่างต่อเนืองของเครองเอ็มอาร์ไอและเทคนิคการ fibrosis) ได้อีกด้วย 8-10
่
่
ื
ตรวจ (pulse sequences) ท�าให้สามารถตรวจได้ การตรวจด้วยเอ็มอาร์ไอวิธีพิเศษท่เรียกว่า
ี
รวดเร็วขึ้น สามารถเลือกเทคนิคการตรวจที่เหมาะสม magnetic resonance cholangiopancreatiography
ในแต่ละโรคที่สงสัย การพัฒนาของสารแกโดลิเนียม (MRCP) หรือเอ็มอาร์ซีพี (รูปที่ 3.10) เข้ามามีบทบาท
้
่
�
(gadolinium-based contrast agent) อย่างต่อเนื่อง ในฐานะของการตรวจทีไม่รุกล�าของระบบทางเดินนาด ี
้