Page 31 - สรุปวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่-2
P. 31

้
                                                          ื
               ภาวะแทรกซอนจากการคาท่อช่วยหายใจและใช้เคร่องช่วยหายใจ
                                                                          ่
                                                                       ่
                   1.  ระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือด อาจท าให้ความดันเลือดต า เนืองจากให้positive pressure สูง เช่น ตั้งค่า TV
                       หรือ PEEP สูง จึงท าให้เลือดไหลกลับสู่หัวใจน้อยลง
                   2.  ระบบหายใจ
                                             ่
                                                ี
                                                                                                 ื
                                                                                                       ี
                       2.1  อาจเกิดการบาดเจ็บกลองเสยง หลอดลมบวม  (laryngeal edema) เยือบุหลอดลมคอขาดเลอดไปเล้ยง  เกิด
                                                                                ่
                          แผลและท าให้หลอดลมตีบแคบ จากค่า cuff pressure ทีสูงกว่าปกติ
                                                                     ่
                       2.2  ภาวะถุงลมปอดแตก (pulmonary barotrauma)  จากการตั้ง tidal volume มากเกินไป หรือตั้งค่า PEEP สูงกว่า
                          10 cmH2O
                       2.3  ภาวะปอดแฟบ (atelectasis) เกิดขึ้นได้จากการตั้งปริมาตรการหายใจต า หรือจากการดูดเสมหะในท่อช่วย
                                                                                  ่
                          หายใจนาน จึงต้องให้ออกซิเจนด้วยการบีบปอดช่วยหายใจหลังจากการดูดเสมหะ
                                                                   ่
                       2.4  ภาวะพิษจากออกซิเจน (oxygen toxicity) เกิดจากผู้ปวยได้รับความเข้มข้นของออกซิเจน FiO2 มากกว่า 0.5
                                                                                        ๊
                          (50%) หรือ 100 % ติดต่อนาน 24- 48 ชม จะเกิดการท าลายเนื้อปอด ถุงลมขาดกาซไนโตรเจน จึงมีโอกาสเกิด
                                              ิ
                          พิษของออกซิเจน ถ้าพยาธสภาพดีขึ้น จะต้องค่อยๆ ปรับ FiO2  ลดลง
                       2.5  ภาวะเลอดไม่สมดุลของกรด (respiratory acidosis) หรือด่าง (respiratory alkalosis) จึงต้องปรับปริมาตรลม
                                 ื
                                                                                     ็
                          หายใจ หรืออัตราการหายใจให้เหมาะสม และติดตามผล arterial blood gas เปนระยะ
                                                                                                        ่
                       2.6  ภาวะปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ (ventilator associated pneumonia : VAP) มักพบในผู้ปวยทีใส ่
                                                                                                           ่
                          ท่อช่วยหายใจ และใช้เครื่องช่วยหายใจ ช่วง  4 วัน หรือนานกว่า
                                                                                                            ่
                                          ื
                   3.  อาหาร อาจมีแผล หรือเลอดออกในทางเดินอาหาร จากภาวะเครียดหรือขาดออกซิเจน แพทย์จึงให้ยาลดการหลัง
                       กรด เช่นยา Sucralfate, Omeprazole

                                     ่
                                                                                                         ่
                   4.  ระบบประสาท เนืองจากเครื่องช่วยหายใจให้แรงดันบวก ท าให้เลือดด าไหลกลับจากสมองน้อยลง อาจท าให้ผู้ปวยมี
                       ความดันในกะโหลกศีรษะสูง (increase intracranial pressure) จึงควรจัดท่าศีรษะสูง 30-45 องศา ระวังไม่ให้คอพับ
                       และป้องกันการไอและต้านเครื่อง

                                                                              ่
                   5.  ปญหาด้านจิตใจ ผู้ปวยอาจมีความเครียด กลัว วิตกกังวล คับข้องใจทีต้องพึ่งพาผู้อื่น ถูกจ ากัดการเคลอนไหว
                                                                                                       ื่
                                        ่
                        ั
                                          ่
                              ่
                                  ่
                       ส าหรับผู้ปวยทีอยู่ในหอผู้ปวยวิกฤตเกิน 3 วัน อาจมีอาการ ICU syndrome (ซึม สับสน กระสับกระส่าย) พยาบาลจึง
                                                                  ื
                                              ่
                                                   ู
                       ควรทักทาย บอกวัน เวลา ให้ผู้ปวยรับร้ทุกวัน ดูแลช่วยเหลอกิจวัตรต่างๆ  และให้ก าลังใจ
               ค าศพท์ที่ใช้ในการตั้งค่าเคร่องช่วยหายใจ
                   ั
                                      ื
               1. F หรือ rate หมายถึง ค่าอัตราการหายใจควรตั้งอัตราการหายใจประมาณ 12-20 ครั้ง/นาที
                                                                                                 ื
               2. Vt : tidal volume เปนค่าปริมาตรอากาศทีไหลเข้าหรอออกจากปอดผู้ปวยหรือค่าปริมาตรการหายใจเข้าหรอออกใน 1 ครั้ง
                                 ็
                                                 ่
                                                                      ่
                                                         ื
               ของการหายใจปกติ มีหน่วยเปนมิลลิลิตร ค่าปกติประมาณ 7-10 มิลลิลิตร/ กิโลกรัม
                                      ็
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36