Page 26 - การบัญชีภาษีเงินได้นิติบุคคล
P. 26

16 การบัญชีภาษีเงินได้นิติบุคคล
รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการส่วนตัวหรือการให้โดยเสน่หา บริษัทจะนําามาหักเป็นรายจ่ายในการคําานวณ กําาไรสุทธิไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร
รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการส่วนตัว หมายถึงรายจ่ายท่ีแต่ละคนควรจะรับภาระ ในส่วนของตนเป็นการส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล โดยผู้รับไม่มีความผูกพัน ในทางธุรกิจการงานกับผู้ให้
รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการให้โดยเสน่หา หมายถึงรายจ่ายที่จ่ายไปโดยความรัก ใคร่ชอบพอกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งผู้รับไม่มีความผูกพันว่าจะต้องกระทาํา การอย่างหน่ึงอย่างใดตอบแทน หรือเรียกว่าการให้เปล่า
รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการกุศล หมายถึงรายจ่ายที่จ่ายไปในการทําาบุญทําาทาน บริจาคทรัพย์สิน ช่วยการศึกษา การศาสนา การสังคมสงเคราะห์ หรือการอื่นๆ แต่กรณีน้ีกฎหมายยังยอม ให้หักได้ในกรณีเป็นการจ่ายเพ่ือการกุศลสาธารณะหรือเพ่ือประโยชน์ของสาธารณชนท่ัวๆ ไป ไม่จําากัดว่า เป็นใคร
4) ค่ารับรองหรือค่าบริการ ส่วนที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ท่ีกฎหมายกําาหนด เป็น รายจ่ายต้องห้าม เว้นแต่ค่ารับรองดังต่อไปนี้สามารถนําามาเป็นรายจ่ายในการคําานวณกําาไรสุทธิได้ โดยมี
หลักเกณฑ์ว่า
(1) ค่ารับรองหรือค่าบริการน้ันต้องเป็นค่ารับรองหรือค่าบริการอันจําาเป็นตาม ธรรมเนียมประเพณีทางธุรกิจทั่วไป และบุคคลซ่ึงได้รับรองหรือรับบริการต้องมิใช่ลูกจ้างของบริษัทหรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเว้นแตลู่กจ้างดังกล่าวจะมีหน้าท่ีเข้าร่วมในการรับรองหรือการบริการน้ันด้วย
(2) ค่ารับรองหรือค่าบริการ ต้อง
ก. เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยอนั เกยี่ วเนอื่ งโดยตรงกบั การรบั รองหรอื การบรกิ ารทจี่ ะอาํา นวย
ประโยชน์แก่กิจการ เช่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม ค่าดูมหรสพ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการกีฬา ฯลฯ
ข. เป็นค่าสิ่งของท่ีให้แก่บุคคลซึ่งได้รับการรับรองหรือรับบริการไม่เกินคนละ
2,000 บาท ในแต่ละคราวท่ีมีการรับรองหรือการบริการ
(3) จําานวนเงินค่ารับรองและค่าบริการ ให้นําามาหักเป็นรายจ่ายได้เท่ากับจําานวน
เท่าที่ต้องจ่าย แต่รวมกันต้องไม่เกินร้อยละ 0.3 ของจําานวนเงินยอดรายได้หรือยอดขายท่ีต้องนําามารวม หรอื คาํา นวณกาํา ไรสทุ ธกิ อ่ นหกั รายจา่ ยใดในรอบระยะเวลาบญั ชีหรอื ของจาํา นวนเงนิ ทนุ ทไี่ ดร้ บั ชาํา ระแลว้ ถงึ วนั สดุ ทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชี แลว้ แตอ่ ยา่ งใดจะมากกวา่ ทง้ั นร้ี ายจา่ ยทจี่ ะนาํา มาหกั ไดจ้ ะตอ้ งมจี าํา นวน สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท
(4) ค่ารับรองหรือค่าบริการน้ันต้องมีกรรมการหรือผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้จัดการ หรือผู้ได้รับมอบหมายจากบุคคลดังกล่าวเป็นผู้อนุมัติหรือคําาสั่งจ่ายค่ารับรองหรือค่าบริการน้ันด้วย และต้องมีใบรับหรือหลักฐานของผู้รับเงินสําาหรับเงินที่จ่ายเป็นค่ารับรองหรือค่าบริการ เว้นแต่ในกรณี ท่ีผู้รับเงินไม่มีหน้าที่ต้องออกใบรับตามประมวลรัษฎากร


































































































   24   25   26   27   28