Page 204 - Book คู่มือดำเนินคดีเยาวชน
P. 204
คู่มือการด�าเนินคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๖๓ 203
ส่วนที่ ๕
กำรด�ำเนินคดีเกี่ยวกับกำรละเมิดสิทธิควบคุมดูแลเด็ก
ื
เน่องด้วยประเทศไทยได้เข้าเป็นภาค อนุสัญญาว่าด้วยลักษณะทางแพ่งในการ
ี
ลักพาเด็กข้ามชาต ค.ศ. ๑๙๘๐ ซ่งมีสาระสาคัญเป็นกฎหมายระหว่างประเทศท่รัฐภาคีได้ตกลง
ิ
ึ
�
ี
ร่วมกันโดยเชื่อมั่นว่าในเรื่องที่เกี่ยวกับอ�านาจปกครองเด็กนั้น ประโยชน์ของเด็กเป็นสิ่งส�าคัญ
ี
ี
สูงสุด และปรารถนาท่จะปกป้องเด็กในระดับระหว่างประเทศให้พ้นจากภยันตรายท่เกิดจาก
การถูกพาตัวไปหรือกักตัวไว้โดยมิชอบ และจัดให้มีกระบวนการในการช่วยเหลือระหว่างรัฐภาค ี
ั
ี
ี
ิ
ื
เพ่อส่งคืนเด็กกลับสู่ประเทศท่เป็นถ่นท่อยู่ปกติโดยรวดเร็ว รวมท้งจะรับรองให้มีการ
ี
คุ้มครองสิทธิท่จะได้พบและเย่ยมเยียนซ่งกันและกัน ดังน้น โดยผลแห่งพันธะกรณีตาม
ี
ั
ึ
อนุสัญญาดังกล่าว ประเทศไทยจึงได้ตราพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศ
ในทางแพ่งเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิควบคุมดูแลเด็ก พ.ศ. ๒๕๕๕ ขึ้น ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่
๙ เมษายน ๒๕๕๖ และมีระเบียบของผู้ประสานงานกลางว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือและ
ี
การขอความช่วยเหลือตามกฎหมายว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในทางแพ่งเก่ยวกับ
การละเมิดสิทธิควบคุมดูแลเด็ก พ.ศ. ๒๕๕๖ ลงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ (ผนวก ๘๔) เพื่อใช้
เป็นแนวทางปฏิบัติด้วย
๑. หลักเกณฑ์ในกำรพิจำรณำ
ี
่
โดยท พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในทางแพ่งเก่ยวกับการละเมิดสิทธิควบคุม
ี
ึ
ดูแลเด็ก พ.ศ. ๒๕๕๕ น กาหนดให้ผู้ประสานงานกลาง ซ่งหมายถึง อัยการสูงสุดหรือผู้ท่อัยการ
ี
ี
�
้
สูงสุดมอบหมาย ให้ความช่วยเหลือแก่ต่างประเทศ กรณีผู้อ้างว่าถูกละเมิดสิทธิควบคุมดูแลเด็ก
ี
ิ
ึ
ขอให้ส่งตัวเด็กซ่งถูกลักพาตัวมาหรือกักตัวไว้ในประเทศไทยกับคืนถ่นท่อยู่ปกติเป็นแห่งสุดท้าย
ของเด็กในต่างประเทศก่อนถูกพาตัวมาหรือกักตัวไว้ หรือกรณีผู้อ้างว่าถูกละเมิดสิทธิในการพบ
และเย่ยมเยียนเด็กในประเทศไทย ขอใช้สิทธิในการพบและเย่ยมเยียนเด็ก และเก่ยวกับการ
ี
ี
ี
ขอความช่วยเหลือไปยังต่างประเทศเพ่อขอใช้สิทธิในการควบคุมดูแลเด็ก และขอใช้สิทธิในการ
ื
�
ี
พบและเย่ยมเยียนเด็กในต่างประเทศ และอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้สานักงานต่างประเทศ
�
ื
รับผิดชอบงานความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่อง งานดาเนินการเร่องการลักพาเด็กข้ามชาต ิ