Page 103 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 103

35
กระทบจิตใจ เพราะอะไรการปรุงแต่งของเราหรือคิดในทางที่คิดในแง่ลบ คิดในทางที่ไม่ดี ทั้ง ๆ ที่ภาพนั้น ก็นิ่ง ๆ อยู่ตรงนั้น เขาไม่กระทบตาเราเลยถ้ากระทบตาบวมแล้ว คิดง่าย ๆ สิใช่ไหม ถ้าภาพข้างหน้ามาชน ตาเหมือนแมลงบินชนหน้าเขียวตาบวมได้นะ กลายเป็นว่าเขาก็อยู่ตรงนั้นของเขา แต่เราต่างหาก ความคิด เราที่ดึงเข้ามา แล้วทาอย่างไร เราปรุงแต่งอะไร นี่ตัวที่กระทบจิตจริง ๆ คือวิธีคิด วิธีคิดวิธีรับรู้ของเรา ต่างหาก
แต่ถ้าเราใช้ความรู้สึกที่มีบรรยากาศรองรับปุ๊บมันจะอยู่ข้างนอก แต่ถ้าเราพิจารณาแบบนี้ปุ๊บ เรารู้ วา่ ทกี่ ระทบเกดิ จากวธิ กี ารคดิ ของเรา เราจะแกท้ ศั นคตขิ องตวั เองได้ เราตอ้ งเปลยี่ นวธิ คี ดิ ทา ไมเราตอ้ งคดิ แบบนี้ แบบนี้อยู่เรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่การใช้จิตที่ว่างที่มองผ่านบรรยากาศแล้วทาให้ดี แต่พอคิดในแง่ลบปุ๊บ เข้าถึงใจทุกที แสดงว่าเราเปิดประตูให้เขาเข้าเรียบร้อยแล้ว มีความเป็นเราเกิดขึ้น แล้วก็เปิดประตู ให้อารมณ์ที่ไม่ดีเข้ามาปรุงแต่งจิต อารมณ์ที่ไม่ดีตรงนั้นคืออะไร อวิชชาคือความไม่รู้ เรียกง่าย ๆ เรียก เพราะ ๆ หน่อย คือความโง่...ฟังแล้วรู้สึกถึงใจนะ เพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจ ว่าการทาอย่างนั้นทาให้อารมณ์ เข้ามาถึงใจ เกิดซ้าแล้วซ้าอีกตลอดเวลา กี่ปีที่ผ่านมา ๑๐ ปี ๒๐ ปี เราเจออารมณ์แบบนี้ เราก็เปิดประตู ให้เขาเข้าแล้วก็มาปรุงแต่ง
แตถ่ า้ เรารวู้ ธิ ที จี่ ะจดั การแบบนแี้ ลว้ เราควรทา อยา่ งไร เรารวู้ ธิ ที จี่ ะปอ้ งกนั แลว้ ควรจะใชใ้ หม้ าก เปน็ เหมือนวัคซีนป้องกันตัวป้องกันจิตเรา ป้องกันจิตป้องกันความทุกข์ไม่ให้เกิดขึ้น มีจิตที่มั่นคงถ้าเราทา อีก อย่างหนึ่งคือการที่เห็นจิตตรงนี้ที่ทาให้จิตเรามั่นคง การรับรู้อย่างไม่มีตัวตนและมีบรรยากาศตรงนี้รองรับ เมื่ออารมณ์ต่าง ๆ ไม่สามารถมาบีบคั้นจิตใจเราได้ จิตเขาจะมั่นคงโดยอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องกัดฟันให้ มนั่ คง แตเ่ ปน็ ความมนั่ คงเพราะอารมณไ์ มส่ ามารถกระทบไดอ้ ยา่ งอสิ ระ จติ ทสี่ งบเบาผอ่ งใสเบกิ บานกลาย เป็นความมั่นคง โดยที่ไม่อ่อนแอไม่หวั่นไหวกับอารมณ์ภายนอก นั่นคือความมั่นคงอย่างหนึ่ง
ไม่ใช่ความมั่นคงแล้วแข็งทื่อนะ รู้สึกว่าถ้ามั่นคงเมื่อไหร่ต้องนิ่งแบบตั้งมั่นแข็ง ๆ เดินแข็ง ๆ เรา มั่นคง ห้ามยุ่งนะ ฉันกาลังมั่นคง พอสะกิดนิดหน่อยความมั่นคงยวบหายไป ได้ยินเสียงเท่านั้นแหละ... เป๋เลย เพราะอะไร ตรงที่วิธีคิดการที่เราย้อนกลับมาดูว่า ทาไมเราชอบคิดในแง่นี้ ทาไมเราชอบคิดในแง่นี้ อันนี้อย่างหนึ่งเราก็จะรู้ถึง ถ้าเราถามเราตอบตัวเองได้ เราจะถามต่อไปว่าเราจะแก้ไหม ควรจะลด ควรจะ เลกิ ควรจะเปลยี่ นตวั เองไหม ทา ไมถงึ ตอ้ งเปลยี่ นตวั เอง เพราะเรารวู้ า่ คดิ แงน่ แี้ ลว้ เปน็ ผลลบตอ่ ใคร กเ็ ปน็ ผลลบต่อเราแล้วเราต้องแก้ไหม คนฉลาดคงรีบแก้นะ ถ้าคนมีปัญญานะ แต่ถ้าปัญญายังไม่พัฒนาเท่าไหร่ ก็ค่อย ๆ แก้บ้างไม่แก้บ้าง มีเวลาก็แก้ไม่มีเวลาก็ไม่แก้ เวลามันเกิดไม่ยอมแก้ เวลามันไม่มีก็หาเวลาที่จะ แก้นะ ก็คือเวลาอารมณ์มากระทบแทนที่จะแก้ทันที แล้วก็ปรากฏขึ้นมาก็แก้เลย ทาเลยทันที ๆ ก็ละทันที หยุดทันที นี่คือการแก้ปัญหาตัวเอง ไม่ใช่ว่าว่าง ๆ สบาย ๆ นั่งหามันอยู่นั้น หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเลยแก้ไม่ได้
สภาวะบางอย่างเมื่อเกิดเฉพาะหน้าดับเฉพาะหน้า ดับขณะที่กาลังปรากฏ ถ้าเขาไม่เกิด เพื่อการ ป้องกัน ดูสภาวธรรมที่กาลังปรากฏ สภาพจิตที่เกิดขึ้น รู้การเปลี่ยนแปลงเกิดดับไปเรื่อย ๆ ศึกษาความ ละเอียดความแยบคายของรูปนาม ตามสภาวะที่ละเอียดยิ่งขึ้นไป แล้วเราก็จะเห็นถึงสภาพจิตใจเราว่า


































































































   101   102   103   104   105