Page 41 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การเจาะสภาวะ
P. 41

219
ไม่มีใครขัดใจหรอก ถ้าขัดเกลาตัวเองแบบนี้ รู้อาการเกิดดับ รู้เกิดดับไปเรื่อย ๆ ยิ่งเกิดดับ จิต ยิ่งผ่องใส ยิ่งว่าง ยิ่งกว้างขึ้นนี่นะ เราก็จะอิสระมากขึ้นเรื่อย ๆ นี่คือเหตุที่ว่า ทาไมเราต้องเจาะสภาวะให้ มาก เหมือนเวลาเรานั่งกรรมฐาน หรือเวลาดูอิริยาบถย่อย พอปล่อย...ถึงเวลาว่างปึ๊บ พักเบรกก็พักสติไป ดว้ ย...ไมไ่ ดน้ ะ พกั เบรกคอื พกั เบรกกต็ อ้ งมสี ตกิ า หนดอริ ยิ าบถยอ่ ย พอจะพดู จะอา้ ปากพดู กต็ อ้ งรทู้ นั แลว้ เห็นคาพูดที่จะออกไป เห็นเจตนาของตัวเองที่กาลังจะพูด พูดเพื่ออะไร พูดแล้วมีประโยชน์อะไร รู้แล้ว เกิดดับอย่างไร
การดูตรงนี้นะ ดูต้นจิตดูจิตตัวเองบ่อย ๆ เราก็จะเห็นแต่ละการกระทา อาการกระทา แต่ละอย่าง ที่จะเกิดขึ้น เราจะรู้ทัน ๆ ๆ ตัวเองมากขึ้น ต่อไปก็จะกลายเป็นความสารวมในตัว เป็นการสารวมระวัง กาย วาจา เห็นไหมเพราะเราสารวมจิต ระวังจิตของเราว่า เดี๋ยวมันคิดมันอยากโน่นอยากนี่ อยากทาโน่น ทานี่ พอสติรู้เท่าทันนี่นะ เหมือนที่เราดูจิต จิตที่ผ่องใสขึ้น สว่างขึ้น สงบขึ้น โล่งขึ้น เวลาจะขยับกาย เวลา จะทาอะไร ถ้าเพิ่มเจตนาเข้าไป เราจะรู้เลยว่า มีเจตนาที่จะรู้ทันเท่าทันอารมณ์ของตัวเองมากขึ้น แล้วเราก็ จะสารวมตัวเองมากขึ้น ๆ
สารวมนี่นะ เพื่อป้องกันอะไร เคยสังเกตไหม บางทีเรารู้แต่ว่าปฏิบัติธรรมไป ทาไมเราต้องสารวม เราต้องระวัง ทาไมเราต้องรู้ นี่คือ...บางทีเหมือนกับเราทาโดยที่ไม่มีเหตุผล การสารวมกาย วาจา เป็นการ รักษาศีลของเรา เห็นไหม เป็นการระวัง ไม่ให้กระทากรรมทางกาย วาจา ที่ไม่พึงกระทา มันเป็นละเอียด แบบนั้น ไม่ใช่แบบรักษาศีล สมาทานรักษาศีลเสร็จแล้วไม่ระวัง ไม่ระวังกายวาจาของเรา ไม่สารวมจิต เดี๋ยวเราก็...ไป ๆ เดี๋ยวก็มีปัญหากระทบ เดี๋ยวเสียงตรงนั้น คิดแบบนั้น คิดแบบนี้ เรามาขัดเกลาจิตใจของ เรานี่นะ มันก็ต้องสังเกตจิตตัวเองให้ชัด
เพราะฉะนั้นการเจาะสภาวะ ถ้าเราใส่ใจ มีเจตนาที่จะเจาะสภาวะในทุก ๆ อารมณ์ พิจารณาอาการ เกิดดับของทุก ๆ อารมณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่เราได้ คือปัญญาของเรา สิ่งที่เราได้คือสติของเรา สิ่งที่เราได้คือ สมาธิของเรา สิ่งที่ได้คือจิตใจของเราที่ดีขึ้น สะอาดขึ้น มีความหนักแน่น มีความตั้งมั่นมากขึ้น แล้วเรา ได้อะไร แล้วเราเป็นอย่างไร ถ้าเป็นอย่างนั้น จิตใจรู้สึกหนักแน่นมั่นคงขึ้น สงบขึ้น แล้วดีไหม บางที... สงบขึ้นแล้วอย่างไร ตอนนี้มีแต่ความสงบ ความใส แล้วอย่างไร โอ้โห!ฟังแล้วธรรมะนี่ ไม่มีค่าเลยนะ
บางทีโยคีรู้สึกว่า เราอยากสงบ อยากขัดเกลาจิตใจตัวเองให้มันว่างนี่นะ พอไปถึงอยากสงบ แต่ ไม่ยอมปฏิบัติ อยากสงบ อยากหา อยากดูว่าคนอื่นสงบไหม ตัวเองไม่ยอมสงบก่อน มันก็เลยกลายเป็น ว่า เราก็เป็นเชื้ออย่างหนึ่ง ที่ไปกระตุ้นให้คนอื่นไม่สงบ เพราะฉะนั้น ต้องเริ่มจากสงบของตัวเอง ดูแบบนี้ สงบแค่ไหนก็ตาม อย่างน้อยก็สงบคานะ สงบวาจา แล้วค่อยสารวมใจ ทีนี้พูดถึงการเจาะสภาวะ พอเรามี เจตนาหนึ่ง เขาเรียกว่า การที่มีเจตนาเหล่านี้ เหมือนมีเป้าหมายที่ชัดเจน
ในการปฏิบัติธรรม มีเป้าหมาย มีอุดมการณ์ เขาเรียกว่าอะไร มีสัจจะในคาอธิษฐานจิตของตัวเอง ในสมาทานกรรมฐาน เราจะมสี ตกิ า หนดรอู้ ารมณป์ จั จบุ นั ตรงนี้ เพอื่ มรรคผลนพิ พาน เรากต็ อ้ งทา จรงิ ใสใ่ จ จริง ๆ เพราะฉะนั้น จึงต้องใช้การเจาะสภาวะในทุก ๆ อารมณ์ เจาะสภาวะในทุก ๆ อารมณ์ อย่างโยคีบอก


































































































   39   40   41   42   43