Page 40 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การเจาะสภาวะ
P. 40
218
ปัญญาเกิดขึ้นแล้วนี่นะ อายุอารมณ์เขาสั้นลง ความทุกข์ก็น้อยลง ถ้าความทุกข์น้อยลง แล้วเราจะอยู่กับ อะไร ถา้ อยคู่ วามไมท่ กุ ขน์ านขนึ้ ความทกุ ขน์ อ้ ยลง กอ็ ยกู่ บั ความไมท่ กุ ขม์ ากกวา่ ความไมท่ กุ ขเ์ ปน็ อยา่ งไร ความสงบ ความว่าง ความเบา ความสงัด หรือความสุข อย่างใดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น
ถ้าเราหมั่นสารวจจิตแบบนี้ จะรู้สึกว่า ถ้าจิตเรารู้สึกว่ามันจะอยู่เฉย ๆ นิ่ง ๆ เฉย ๆ เฉยแล้วดี ไหม...ไม่ดี เฉยก็ดี เพราะไม่มีทุกข์ เฉยก็ดี เพราะไม่เป็นอกุศล เฉยก็ดีถ้าเรารู้เข้าไป เฉยอย่างสงบ เฉย แลว้ กร็ วู้ า่ เฉยสงบเปน็ กศุ ลอยู่ กถ็ อื วา่ ดแี ลว้ เรารใู้ หช้ ดั ๆ จากทเี่ ฉย ๆ จติ ทเี่ ฉย เฉยแบบขนุ่ ๆ เฉยแบบใส เฉยสะอาด รู้เข้าไปอีก การเจาะสภาวะรู้เข้าไปให้ชัดแบบนี้ เพราะฉะนั้น การเจาะสภาวะที่บอกว่า เจาะได้ ทุก ๆ อารมณ์ และการที่เราสนใจแบบนี้ นี่คือหลักของวิปัสสนาจริง ๆ การเดินทางเพื่อการขัดเกลาตัวเอง การเดินทางไปข้างหน้า เพื่อการชาระขัดเกลา
ทนี ปี้ ระเดน็ วา่ ทา ไมเราตอ้ งสนใจอาการเกดิ ดบั ทา ไมตอ้ งสนใจอาการเกดิ ดบั เพราะทกุ ครงั้ ทอี่ ารมณ์ นั้นดับไป เวทนาดับไป เหมือนสิ่งที่กระทบเข้ามา เหมือนถูกตัดไป อย่างเช่นความทุกข์เกิดขึ้นมาแล้ว เราก็ ดับทุกข์ เหมือนตัดปัญหาไปอย่างหนึ่ง เพราะความทุกข์ จะเป็นเหตุให้การปรุงแต่งไปสารพัดมากมาย แต่ พอเราตดั ตรงนี้ การปรงุ แตง่ ในแงท่ ไี่ มด่ กี ล็ ดลง เขาเรยี กอกศุ ลมนั นอ้ ยลง มนั กป็ รงุ แตง่ ในแงท่ ไี่ มด่ นี อ้ ยลง ถึงแม้ว่าจะเกิดซ้า ๆ เห็นแล้วดับ ๆ ๆ พอดับ ๆ มาก ๆ ก็ไม่ยึดว่าเป็นของเรา ก็ตัด ๆ เหมือนตัดภพชาติ
คิดดูว่า เราโกรธแค่ห้านาที แล้วไปทาไม่ดีภายในห้านาทีนั้น เราไปเกิดกี่ภพชาติ ตายไปแล้วไปเกิด กี่ภพชาติ ไปอยู่นานแค่ไหน กี่ปี นี่คือการตัดวงจรอย่างหนึ่ง กรรมของเรา ผัสสะขึ้นมา การที่เรารู้จักหยุด รู้จักหยุดตัวเอง แล้วหยุดกรรมที่จะทาต่อไป ทีนี้การที่อยู่ ๆ แล้วเราไม่เคยสนใจอาการเกิดดับเลย อย่าทา นะ อย่าทา เคยห้ามตัวเองได้ไหม ห้ามได้...แต่น้อย ถ้ามันแรง ๆ ก็ห้ามไม่อยู่ เอาไม่อยู่แล้ว ไปเสียแล้ว กระทบปุ๊บก็ทาเสร็จแล้ว มานั่งเสียใจภายหลัง ทาเสร็จแล้วก็ อ่า!ทุกข์ขึ้นมา สร้างกรรมใหม่ขึ้นมา
แตถ่ า้ เรากา หนดรแู้ บบนี้ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การทมี่ เี จตนาทจี่ ะเจาะสภาวะ รอู้ าการพระไตรลกั ษณ์ รู้อาการเกิดดับแบบนี้เรื่อย ๆ สังเกตไหมว่า ตอนที่เราเจาะสภาวะ เริ่มจากการกาหนดรู้ลมหายใจเข้าออก เริ่มจากกาหนดรู้พองยุบนี่นะ เรารู้จากของหยาบ จากอารมณ์หยาบ ๆ ที่เป็นบัญญัติ แต่พอมีสติตามรู้ให้ ละเอยี ดขนึ้ เจาะเขา้ ไปรลู้ ะเอยี ดขนึ้ อาการเกดิ ดบั ละเอยี ดขนึ้ ความเปน็ รปู รา่ ง ความเปน็ กลมุ่ กอ้ นของพอง ยุบหายไป ความเป็นกลุ่มก้อนของลมหายใจ เริ่มหายไป เหลือแต่อาการอย่างเดียว เจาะเข้าไปอีก ดูไปอีก แม้ความเป็นรูปร่าง ความเป็นกลุ่มก้อนของตัวก็หายไป เหลือแต่อาการ
เพราะฉะนั้น พอเหลือแต่อาการแบบนั้น ลองดูว่า เวลาเหลือแต่อาการที่เกิดในที่ว่างนี่นะ อาการ เหลา่ นนั้ เปน็ ทอี่ าศยั ของกเิ ลสไดไ้ หม หรอื วา่ อารมณท์ เี่ ขาแวบ็ ดบั ๆ นนี่ ะ เขาจะเกดิ ...กเิ ลสจะเกดิ ทนั ไหม... ไม่ทัน มันมีแต่อาการ จิตที่ต้องรับรู้อารมณ์ใหม่ เกิดแล้วดับไป ๆ เพราะฉะนั้นนี่ การรู้อาการเกิดดับตรง นี้นี่แหละ อารมณ์เกิดขึ้น เกิดดับเร็ว อายุสั้นลง การเข้าไปเกาะ เข้าไปยึดปรุงแต่งก็จะน้อยลง พอปรุงแต่ง น้อยลง นอกจากปรุงแต่งไม่ได้ ไม่ทันแล้วนี่นะ ยิ่งสะอาดขึ้น จิตยิ่งสะอาด เพราะดับแล้วใสขึ้น ดับแล้ว โล่งขึ้น ดับแล้วสว่างขึ้น ตรงนี้แหละเป็นการชาระจิต เป็นการขัดเกลาจิตใจ โดยที่ไม่ต้องขัดใจนะ