Page 64 - ดับตัวตน ค้นธรรม
P. 64
56
ทีนี้ สภาพจิตประเภทไหน สภาพจิตอย่างไร จะทาให้เรากาหนด อิริยาบถย่อยได้ดี หรือจะกาหนดต้นจิตได้ง่าย ? ถ้าสภาพจิตเราไม่ว่าง มีแต่ความทุกข์ มีแต่ความหนัก มีแต่ความขุ่นมัว มีแต่ความเศร้าหมอง เราจะกาหนดไม่ทันอิริยาบถของเรา สังเกตไหม ถ้าเราเกิดความรู้สึก ขัดเคืองขุ่นมัว เราจะไม่สนใจอิริยาบถย่อยของเราหรอก เพราะอารมณ์ มันพาไป มันจะทาไปก่อนแล้วค่อยคิด ทาไปก่อนแล้วค่อยรู้ตัว ก็เลย กลายเป็นว่าทาไปโดยที่ไม่มีสติ โดยที่ไม่รู้ตัว
การสังเกตอิริยาบถย่อย อย่างหนึ่งคือกาหนดให้รู้ทันอาการ เคลื่อนไหวของอิริยาบถย่อยของเราในแต่ละครั้ง ก่อนที่จะหยิบ ก่อนที่ จะจับ ก่อนที่จะพูด ก่อนที่จะเคลื่อนไหว ให้รู้สึกก่อน รู้สึกทัน! จริง ๆ ถ้ารู้สึกทันอาการตรงนี้ มีสติรู้ทัน รู้ทัน จะเป็นการกาหนดอิริยาบถย่อย ได้ปัจจุบัน กาหนดได้ปัจจุบันแบบนี้ รู้ถึงอาการเคลื่อนไป ขยับ หยิบ จับ ยก วาง กระพริบตา อ้าปาก... ยิ่งรู้อยู่กับอารมณ์ปัจจุบันมากเท่าไหร่ สติเราก็แก่กล้ามากขึ้น จิตจะตั้งมั่นขึ้น การที่รู้อารมณ์ปัจจุบัน/รู้อิริยาบถ ย่อยนี่ เพื่อความต่อเนื่องของสติจากอารมณ์หลัก
อย่างเช่น เรานั่งกรรมฐาน อารมณ์หลักคือตอนอิริยาบถนั่ง พอ นั่งกาหนดลมหายใจ กาหนดความคิด กาหนดเวทนาหมดไป ตอนที่เรา จะถอนกรรมฐานนี่ เราลืมตา... จริง ๆ แล้วปกติไม่ค่อยได้ใช้คาว่า ถอนกรรมฐานหรอก พอลืมตาเปลี่ยนอิริยาบถจากการนั่งเป็นลุกนี่ พอ ลืมตาขึ้นมาปุ๊บ มีสติรู้ถึงอาการค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา อาการลืมตาเป็น อย่างไร พอลืมตาเสร็จ พอเราจะขยับมือ มีสติรู้ชัดถึงอาการค่อย ๆ ขยับ ค่อย ๆ เคลื่อนไหว ค่อย ๆ ขยับตัว... มีสติรู้อยู่กับอารมณ์