Page 80 - ดับตัวตน ค้นธรรม
P. 80
72
เพราะฉะนั้น เวลาเรารู้แต่ละขณะ รู้แล้วเขาดับปุ๊บรู้สึกสงบขึ้น รู้ ดับแล้วใสขึ้น เบาขึ้น โล่งขึ้น ลักษณะสภาพจิตเราโล่งมากขึ้น แต่ตัวรู้เขา ทา หนา้ ทรี่ แู้ ลว้ ดบั ไป นนั่ คอื ผลทตี่ ามมา เพราะสภาพจติ ทโี่ ลง่ ขนึ้ กวา้ งขนึ้ นั่นคือสภาพจิตใจของเรา เปลี่ยนไปตรงที่มันโล่งขึ้น เบาขึ้น หรือสงบขึ้น อันนี้จะตั้งอยู่ได้นาน ซึ่งเป็นขณะใหญ่ที่จิตเราจะเปลี่ยนไปเลย เปลี่ยน จากเมื่อก่อน จากก่อนหน้าโน้นที่เคยรู้สึกว่าความสงบตั้งอยู่ไม่นานหรือ เฉพาะตัว แต่พอกลายเป็นบรรยากาศเมื่อไหร่ สิ่งที่กาลังเป็นอยู่นี้เขาจะ ตั้งอยู่นานขึ้น
เพราะฉะนั้น เวลาเราปฏิบัติแล้ว โดยรวมเรารู้สึกว่าจิตใจเรารู้สึก สงบขึ้น ก็คือตัวสภาพจิต ไม่ใช่แค่ตัวรู้สงบขึ้น ตัวรู้เขาคล่องแคล่วขึ้น เรว็ ขนึ้ แตส่ ภาพจติ เรารสู้ กึ สงบขนึ้ ตวั ลกั ษณะของสภาพจติ ตรงนี้ ทนี ี้ เมอื่ สภาพจติ สงบหรอื สภาพจติ เรามคี วามสขุ ตรงนเี้ ราแยกนามกบั นาม เราจงึ เห็นชัด เพราะฉะนั้น ถ้าสภาพจิตเราสงบแต่ตัวรู้ไม่สงบ ไม่มีรสชาติของ ความสงบด้วย แค่เป็นตัวรู้แบบแห้ง ๆ เฉย ๆ นิ่ง ๆ แล้วรู้ในความสงบ อย่างเดียว ถ้าตัวนี้หมดไปปุ๊บ หรือถ้าเราไม่ได้ดูบรรยากาศที่รองรับ มาดู สภาพจิตเรา ความสงบนั้นจะหายไป เหลือแต่แค่รู้นิ่ง ๆ นิ่ง ๆ เฉย ๆ
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้ แล้วตัวรู้มีรสชาติแบบเดียวกันกับบรรยากาศ ลองสังเกตดูนะ ขณะที่เรายกจิตขึ้นสู่ความสุขแล้ว ทาให้สภาพจิตเรารู้สึก มีความสุข เติมความสุขให้เต็มตัว แล้วตัวรู้เป็นเพียงผู้ดูเฉย ๆ รู้สึกเป็น อย่างไร ? กับที่ให้ตัวรู้มีความสุขด้วย ลองดูว่า การรับรู้อารมณ์ตรงนั้น รู้สึกเป็นอย่างไร ? อันไหนสบายกว่ากัน ? อันไหนมีกาลังมากกว่ากัน ? ขณะที่ตัวรู้มีความสุขด้วย ความรู้สึกเรา จิตเราจะมีกาลังขึ้น ความสุขจะ ชัดขึ้น แล้วตั้งอยู่ได้นานขึ้น