Page 86 - ดับตัวตน ค้นธรรม
P. 86

78
แล้วชาติที่แล้วสั่งสมมาได้อย่างไรจนชาตินี้เป็นแบบนี้ ? ไม่งั้นคนเราก็ พัฒนาไม่ได้ พัฒนาจิตแล้วก็ต้องพัฒนากาย
ทบี่ อกวา่ จติ เรานมี่ คี วามผอ่ งใส มคี วามสะอาด มคี วามสงบ มคี วาม นิ่มนวลอ่อนโยน แล้วสังเกตได้ง่ายที่สุด เวลาจิตเรามีความเป็นกุศล หรือมีความนิ่มนวลอ่อนโยน มีความสุข ลองดูสิ กิริยาของเรารู้สึก เป็นอย่างไร ? จะหยิบจะจับจะทาอะไรก็นิ่มนวลอ่อนโยน รู้สึกเรียบร้อย เป็นระเบียบไปหมด แต่พอสภาพจิตเปลี่ยนปั๊บก็จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น เลย จากนิ่มนวลอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นตรงกันข้าม ทาอะไรก็ก๊งเก๊ง ๆ แม้ แต่เดิน ขนาดพื้นเราใช้คอนกรีตใช้กระเบื้องเสียงยังดังเลย เดินแล้ว คนนั่งสมาธิสะเทือนเลยแหละ ยังไม่ต้องพูดถึงพื้นไม้
เพราะฉะนั้น การที่เรารักษาสภาพจิตหรือดูสภาพจิตของเรา บ่อย ๆ ตรงนี้ เมื่อไหร่ที่รู้สึกแห้งแล้ง เราก็ยกจิต คนที่ได้รับประโยชน์ ก่อนเพื่อนคือตัวเรา จาง่าย ๆ เมื่อไหร่ที่เรายกจิตขึ้นสู่ความสุข ยกจิตขึ้น สู่ความสงบ ยกจิตขึ้นสู่ความสบาย คนที่ได้รับอานิสงส์ก่อนเพื่อนคือ ตัวเรา คนอื่นอยู่ข้างนอกก็ได้รับทีหลัง เพราะฉะนั้น การที่ทาอย่างนี้ เหมือนเราเมตตาตัวเอง ให้พรกับตัวเอง ให้สิ่งดี ๆ กับตัวเอง ทาจิตที่ดี ของตัวเองให้เกิดขึ้นกับเราบ่อย ๆ เราก็จะรู้สึกว่าอยู่กับความสุขความ สบาย ใจเราก็จะสบาย ๆ มีความสุขตลอด ใครไม่ให้เราก็มีความสุขของ เรา แล้วเราจะเป็นผู้ให้ก่อน
พอเรามีความสุข สิ่งดี ๆ ก็จะหลั่งไหลออกมา เวลาเราไม่มี ความสุข ไอ้ที่ไม่ดีมันก็ค่อย ๆ ซึมออกมา ออกมาเรื่อย ๆ จนเรารู้สึกว่า ความสบายหายไปหมดเลย คนที่เจอก่อนคือตัวเรา คนอื่นเขาก็รับทีหลัง


































































































   84   85   86   87   88