Page 156 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 156

152
ทาอะไรผดินะเราไมม่เีจตนาทจี่ะทาไมด่นีะร้แูลว้วา่ไม่ได้พดูอะไรที่ทาให้ ใครเดือดร้อน มีแต่เจตนาที่ดี พูดถึงสิ่งที่ดี คาพูดก็ดีออกมา นี่แหละคือ ศีล เป็นวิรัติกันตศีล คือการสารวมระวังกายวาจาใจของเราให้มีความ บริสุทธิ์หมดจดไปในตัว
ทนี ี้ ศลี บรสิ ทุ ธอิ์ ยา่ งเดยี วไมพ่ อ จติ กต็ อ้ งบรสิ ทุ ธดิ์ ว้ ย จติ ทบี่ รสิ ทุ ธิ์ เราจะเห็นได้อย่างไร ? ตรงนี้แหละที่บอกว่า สจิตตปริโยทปนัง การชาระ จติ ของตนใหข้ าวรอบ อนั นเี้ ปน็ สงิ่ สา คญั การทชี่ า ระจติ ของตนใหข้ าวรอบ พดู ถงึ สภาพจติ —สภาพจติ ใจของเราเวลามอี กศุ ล มโี ลภะ โทสะเกดิ ขนึ้ มา ถามว่า จิตบริสุทธิ์ไหม ? เราก็บอกได้...ไม่บริสุทธิ์ จิตที่ไม่บริสุทธิ์นั้นมี ลักษณะอย่างไร ? ถ้าเราไม่เคยสนใจจิตตัวเองก็บอกไม่ได้หรอก รู้แต่ว่า คิดไม่ดี แต่ถ้าสังเกตจิต เริ่มจากการที่เราปฏิบัติกัน เริ่มจากการแยกรูป นาม การแยกกายแยกจิต ทาจิตให้ว่าง ทาจิตให้โล่ง ให้โปร่ง ให้เบา จิต กบั กายแยกจากกนั แลว้ รสู้ กึ โลง่ เบา โปรง่ ขนึ้ มา จติ ทโี่ ลง่ เบาตรงนนั้ ลอง ดูว่า มีกิเลสตัวไหน...มีโลภะ มีโทสะ มีโมหะไหม ?
ถามง่าย ๆ ก็คือว่า มีความรู้สึกว่าเป็นเราหรือเปล่า มีความเป็น เรา/บอกว่าเป็นเราไหม มีตัวตนไหม ? หรือพอยิ่งดูมันยิ่งว่างยิ่งเบา ไม่มี อะไรเลย ไม่มีโลภะ ไม่มีโทสะ ไม่มีโมหะอยู่ในนั้นเลย มีแต่ความว่าง ๆ อย่างเดียว มีแต่โล่งอย่างเดียว... นี่คือจิตที่ว่าง—ว่างจากอกุศล ถามว่า บรสิ ทุ ธผิ์ อ่ งใสหรอื ยงั ? บางทเี รากย็ งั รสู้ กึ วา่ เออ! มนั ยงั ไมบ่ รสิ ทุ ธิ์ มนั ยงั ไม่ผ่องใสเท่าที่ควร แสดงว่าการละอกุศลแม้ชั่วขณะหนึ่ง ละแบบนี้ดีแล้ว แตส่ งิ่ ทเี่ ราทา ตอ่ ไดก้ ค็ อื วา่ ถา้ รจู้ ติ อยา่ งนไี้ ปเรอื่ ย ๆ ดไู ปกา หนดรไู้ ป ดจู ติ ในจติ ไปเรอื่ ย กจ็ ะเหน็ วา่ จติ ทสี่ ะอาดทผี่ อ่ งใสนนั้ เปน็ อยา่ งไร จติ ทวี่ า่ งแลว้ ผ่องใสขึ้นสะอาดขึ้นด้วยกาลังของสติ สมาธิ และปัญญาของเรา


































































































   154   155   156   157   158